A sad story of a Redshirt who is waiting for help now.
คนไทยเราไม่ทอดทิ้งกัน...แห่ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว อย่าลืมเหลียวแลผู้ประสบภัยการเมือง
น้ำใจ สู้ภัยน้ำท่วม-พระสงฆ์พายเรือผ่านพระนอนในจังหวัดนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ชาวไทยพากันตื่นตัวหลั่งไหลน้ำใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมกันทั่ว ประเทศในยามนี้ (ภาพข่าว:AP)
โดย ทวีรัศมิ์ จันทิรา
21 ตุลาคม 2553
หมายเหตุไทยอีนิวส์:ขณะ ที่มีการระดมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมขนานใหญ่ในเวลานี้ ทวีรัศมิ์ จันทิรา ได้ไปเยี่ยมผู้ประสบภัยการเมือง 19 พฤษภาฯ และเขียนบันทึกนี้ขึ้นเพื่อวิงวอนไม่ให้ลืมเลือนพวกเขาไป โดยที่ยังไม่มีการเยียวยา
ชะตากรรมของเสกสิทธิ์ ช้างทอง
ที่ จริงแล้วฉันมีเรื่องราวต่างๆ มากมายที่อยากเขียนถ่ายทอดลงในบทบันทึกแห่งชีวิตเพื่อวันข้างหน้า ... ฉันจะได้ย้อนรอยเรื่องราว และความทรงจำต่างๆ ที่สวยงาม.. ประทับใจไว้ปลอบประโลม และหล่อเลี้ยงจิตใจในยามที่ชีวิตอาจเผชิญความว้าเหว่ ... อ้างว้าง ...ในบั้นปลายแห่งชีวิต ......
หากในวันนี้ ฉันต้องนำเรื่องราวของ "เสกสิทธิ์ ช้างทอง" มาแซงเรื่องราวอื่นที่ต้องเขียน เพราะเสกสิทธิ์... ในวันนี้กำลังเผชิญชะตากรรมที่ถาโถมเข้าใส่ชีวิตอย่างหนักหน่วง ...
เสก สิทธิ์ต้องการกำลังใจ... เสกสิทธิ์และครอบครัวกำลังต้องการความช่วยเหลือจากสังคมอย่างเร่งด่วน !!! เพื่อต่อลมหายใจให้ยืนอยู่บนโลกนี้อย่างมีความสุขเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งพึงมี พึงเป็น ....
วันนี้(20ตุลาคม)... ในตอนบ่ายฉันพร้อมเพื่อนได้ไปเยี่ยมเขาถึงบ้าน หลังจากฉันรับรู้เรื่องราวที่เขาต้องเผชิญชะตากรรมที่เจ็บปวดในโลกมืดที่เขา ไม่ได้ก่อขึ้น หากเป็น "เหยื่อ" ที่ถูกกระทำโดยรัฐบาลเผด็จการที่ปราบประชาชนมือเปล่าไร้อาวุธ .... เขาเหล่านั้นออกมาเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย เพื่อทวงคืน
ความยุติธรรม ....
หาก ผลที่เกิดขึ้นนั้น 92 ศพ ... บาดเจ็บกว่า 2,000 ราย และผลกระทบกับอีกหลายพันชีวิต หลายร้อยครอบครัวที่กำลังจมจ่อมอยู่กับความทุกข์ ความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส อีกกี่ร้อยคนเล่า ? ที่กำลังถูกจองจำไร้สิ้นอิสรภาพ ....
และอีกกี่คนเล่า ? ที่กำลังหนีอย่างหัวซุกหัวซุน พลัดจากบ้านจากครอบครัวเพื่อรักษาชีวิตให้อยู่รอด !!!!
"เสก สิทธิ์ ช้างทอง" เป็นหนึ่งในหลายรายที่ได้ผลจากการปราบปรามประชาชนเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา .... จากชายหนุ่มอายุ 28 ปี จัดว่าเป็นคนหนุ่มหน้าตาดี จมูกคมโด่งเป็นสัน รูปร่างสูงขาว ก่อนหน้าที่ชีวิตจะเผชิญชะตากรรม....
ใช้ ชีวิตปกติเยี่ยงคนทั่วไป มีครอบครัวของตนเองเล็กๆ ภรรยา "ยุ้ย" อายุ 26 ปี ทำงานเป็นลูกจ้างบริษัท เงินเดือน 8,000 บาท ลูกชาย 1 คน "น้องก้อง" วัย 7 ขวบ เรียนชั้น ป.1
ตัวเขาขับรถจักรยานยนต์รับจ้างซึ่งเขาเล่าให้ ฟังว่ารายได้อย่างน้อยวันละ 500 - 800 บาท สรุปแล้วรายได้ของครอบครัวนี้รวมกัน สามารถใช้ชีวิตได้ตามอัตภาพอย่างมีความสุข พร้อมเจือจุนพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายซึ่งมีฐานะยากจน ....
แต่แล้ว สิ่งที่ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นกับชีวิตของเขา ... เช้าวันที่ 19 พฤษภาคม หลังจากขับรถจักรยานยนต์ไปส่งภรรยาที่ที่ทำงานแล้ว เขาได้ไปเข้าวินขับมอเตอร์ไซด์รับจ้างตามปกติ ราว 9 โมงเช้ามีผู้โดยสารว่าจ้างให้ไปส่งที่พรรคเพื่อไทย ที่อยู่แถวสามย่าน ถนนพระราม 4
ในวันนั้น ทหารได้เข้าล้อมปราบประชาชนอย่างหนักหน่วงตั้งแต่ย่ำรุ่ง ... จุดที่เกิดเหตุหน้าพรรคเพื่อไทยอยู่ห่างราชประสงค์ และสวนลุมพินีพอควร แต่ทุกคนเข้าไม่ถึงจุดนั้น จึงได้มารวมตัวที่บริเวณพรรคเพื่อไทยจำนวนมาก ... เมื่อมีคนมาก ... ย่อมเป็นเป้าหมายให้ทหารเข้ามาปราบ ....
มี การยิงกระสุนมาที่บริเวณนี้ เสกสิทธิ์ หลังส่งผู้โดยสาร และอยู่สังเกตุการณ์ชั่วระยะเวลาหนึ่งกำลังจะกลับ มีการยิงเกิดขึ้น เขาหมอบลงกับพื้น พอเงยหน้าขึ้น !!!! ชะรอย !!! คงเป็นเวรกรรมที่หลีกเลี่ยงไม่พ้น ... เขาถูกยิงเข้าที่หน้า กระสุนฝังในที่เหนือสันจมูกระหว่างคิ้ว
มีผลกระทบต่อนัยน์ตาทั้ง 2 ข้างของเขาทำให้มองไม่เห็น กระสุนยังฝังอยู่ข้างใน แพทย์ไม่กล้าเสี่ยงผ่าออกเพราะตรงนั้นเป็นรอยต่อของเส้นประสาท ผ่าออกก็ไม่มีผลต่อการมองเห็น ซ้าเสี่ยงต่อผลกระทบด้านอื่น เช่น อัมพฤกษ์ หรืออัมพาต....
เสกสิทธิ์ในวันนี้.... กำลังเผชิญชะตากรรมในโลกมืด ... ฟังเทปธรรมะเป็นเครื่องชะโลมจิตใจให้เขาพอมีเรี่ยวแรงลุกขึ้นมาต่อสู้ชีวิต ยังชีพด้วยเงินเดือนของภรรยาที่น้อยนิด เงินช่วยที่มีผู้หยิบยื่นให้ ขายล็อตเตอรี่ในเวลาที่มีการชุมนุมของคนเสื้อแดงในที่ต่างๆ
และ สิ่งที่ยากลำบากที่สุดสำหรับเขา คือการเดินทาง เขาไม่มีรถ เงินทุกบาททุกสตางค์เขาต้องเซฟอย่างที่สุด...นั่งรถนานๆ มีผลต่อร่างกายของเขา ทำให้ปวดศีรษะ วิงเวียน เพราะกระสุนปืนยังฝังที่หน้าผาก ทุกอย่างติดขัดไม่คล่องตัว ... โอกาสของชีวิตมีน้อยมาก เพราะความยากจน ...
ทุกอย่างที่เคยเก็บออมมายามที่หาได้ ต้องขายหมดทั้งรถจักรยานยนต์ ทั้งทอง และอื่นๆ ...
ฉันถามถึงอาชีพที่เขาจะทำให้ยั่งยืน ? เขากำลังรอพรรคเพื่อไทยที่จะส่งเขาไปเรียนด้านวิชาชีพสำหรับคนพิการด้านสายตา
เพื่อหาอาชีพที่เหมาะสมต่อไป ......เขากำลังปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตในโลกมืด !!!!
ภรรยา เขานั้นเหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก ตื่นตี 4 เพื่อทำกับข้าวเตรียมให้เขา... แล้วออกจากบ้านตี 5 ครึ่งพร้อมลูกไปทำงาน .... กลับถึงบ้าน 3 ทุ่ม !!!
เขารันทดเจ็บปวดกับตัวเองยังไม่พอ... หากเห็นลูกและภรรยาเหน็ดเหนื่อยมากขึ้น โดยที่เขาช่วยอะไรไม่ได้ .... มันเจ็บปวดยิ่งกว่า ...
ช่วง เวลาตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง ถึง 3 ทุ่ม จึงเป็นช่วงที่เขาอยู่คนเดียวอย่างเดียวดาย ... ยาวนานนัก...ที่เขาต้องจัดการกับชีวิตของตัวเอง เขาบอก... เขาจะนอนกลางวัน เพื่อในเวลากลางคืน ...ที่เขาอยู่พร้อมหน้าลูกเมีย... เขาจะลุกขึ้นมานั่งเฝ้านั่งมองนั่งสัมผัสคนทั้งสองที่เขาบอกว่า เป็นช่วงเวลาที่เขาอบอุ่นที่สุดในแต่ละวัน....
ฉันแอบหลั่งน้ำตาทันทีเมื่อได้ฟังประโยคนี้ ... โชคดีที่เสกสิทธิ์มองไม่เห็น !!!!เหมือนมีอะไรมาจุกที่คอจนพูดไม่ออกชั่วขณะ !!!!
ใน วันนี้ ฉันกับเพื่อนช่วยเหลือเงินเขาเล็กน้อย หากน้ำใจของเราทั้งสองนั้นยิ่งใหญ่ ฉันรับเป็นธุระเรื่องหาไม้เท้าที่คนพิการทางสายตาต้องใช้เวลาไปไหนมาไหนที่ เราเห็นบ่อยๆ ทั่วไป ซึ่งจะไม่เหมือนไม้เท้าธรรมดา เพราะเวลานี้เสกสิทธิ์ใช้ด้ามร่มแทน !!
มันเป็นอย่างไร ... ซื้อที่ไหนนะ... เจ้าไม้เท้านี้ !!! ฉันไม่เคยรู้จัก ไม่เคยสัมผัสเลย... แต่ฉันจะต้องหาให้ได้ในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน !!!!
2 ชั่วโมง ที่ฉันกับเพื่อนนั่งคุยกับเขาที่บ้าน มันช่างเป็นเวลาที่มีคุณค่าด้านจิตใจทั้งสำหรับเขา และฉันกับเพื่อน เขาบอกว่าฉันกับเพื่อนเป็นเสื้อแดงคนแรกที่ไปเยี่ยมเขาถึงบ้าน นอกนั้นพบกันข้างนอกหรือโทรศัพท์ถามข่าวคราว พรรคเพื่อไทยหากต้องการพบเขาก็จะให้เขาไปหาที่พรรค แล้วให้ค่ารถกลับมา แต่คนที่พรรคจะโทรศัพท์ถามข่าว และให้กำลังใจเสมอ.....
ฉันดีใจที่ ได้ฟังเช่นนี้ ... ถามข่าวคราวอย่างละเอียด พร้อมให้กำลังใจ ฉันบอกเขาว่า เขามีเพื่อนเพิ่มขึ้นอีก 2 คน และไม่ใช่จะมาเยี่ยมเพียงฉาบฉวยครั้งเดียว ฉันจะไปดูแลอีก
โชคดีที่บ้านเสกสิทธิ์กับบ้านฉันและเพื่อนอยู่ใกล้กันในระยะ 8-9 กิโลเมตรเท่านั้น เรา 3 บ้านอยู่ย่านบางใหญ่ นนทบุรี
ฉัน ขออนุญาตนำเสนอเรื่องราวของเขา... เผื่อใครมีจิตเมตตาจะช่วยกันดูแล และ โอบอุ้มเพื่อนมนุษย์ที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ในโลกมืด
เรา ล่ำลากัน .... ฉันกลับมาที่รถ ... จับมือเพื่อน น้ำตารินออกมาอย่างสุดกลั้น ...ฉันมักอ่อนไหวเสมอเมื่อพบเห็น "เพื่อนเสื้อแดง" ต้องเผชิญชะตากรรมทุกข์ตรมเช่นนี้
หลายคน .... คนแล้วคนเล่า ... ไม่จบไม่สิ้น ....คิดถึงท่านนายกทักษิณ คิดถึงใครต่อใครอีกหลายคนที่อยู่ในประเทศนี้ไม่ได้ ... อนิจจา !!!!
ขอ วิงวอน... หากท่านที่อ่านบทบันทึกนี้ไม่ว่าท่านจะอยู่แห่งหนใดในประเทศ หรือต่างประเทศ จะเป็นเสื้อแดง จะสีอะไร หากช่วยได้โปรดช่วยกันค่ะ การช่วยเหลือนั้นมิได้จำกัดตีค่าตีราคา ที่เป็นเงินทองทรัพย์สินเท่านั้น หากหมายถึง น้ำใจ กำลังใจ ที่เราจะพึงมีให้แก่กันและกันด้วย...
แม้ จะเป็นเสียงเล็กๆ ที่ไม่ดังเสียงหนึ่งของสังคม ฉันขอวิงวอนแทนเสกสิทธิ์ด้วยเถิด ...ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใดของรัฐที่กำลังพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ....พรรคเพื่อไทย ...ศูนย์ช่วยเหลือเพื่อนเสื้อแดงที่อิมพีเรียลเวิล์ดของสามเกลอ หรืออื่นๆ ..... โปรดให้ความช่วยเหลือเขาอย่างเร่งด่วนเถิด ...
วันเวลาของคน ที่กำลังเดือดร้อน ที่ต้องรอคอยความช่วยเหลือนั้นยาวนานนัก....อย่าให้เขาต้องหายใจรวยริน เหมือนคนใกล้จมน้ำตาย แล้วเราถึงยื่นมือเข้าไปช่วย ....เราต้องช่วยกันหยิบยื่นโอกาสให้เขา ... เพื่อเขายืนได้ด้วยลำแข้งของเขาอย่างมั่นคง ..
ฉันยังหวังว่า ... สักวันหนึ่งปาฏิหารย์อาจเกิดขึ้นกับเขา ! ! แม้ความหวังนั้นอาจริบหรี่ .... ดังแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ก็ตาม ! ! !
หมายเหตุ:ติดต่อเสกสิทธิ์ ช้างทอง 086-4024957
No comments:
Post a Comment