จาตุรนต์ : คำโต้แย้งต่อคำพูดอภิสิทธิ์ ฉบับที่ 3
ที่มา chaturon's posterous
สวัสดีครับทุกท่าน
วันนี้มีเวลาเล็กน้อยครับ คงต้องเลือกพูดเพียงบางเรื่อง ใครมีประเด็นจะฝากก็เชิญนะครับ
อ่าน ข่าวนสพ.ฉบับใหญ่ๆ ข่าวการเมืองมักเป็นข่าวการให้ความเห็นของปชป.มากกว่าพรรคอื่นๆ อาจเป็นเพราะพรรคนี้ถนัดแสดงความเห็นอยู่แล้วด้วย
เนื้อหาส่วนใหญ่ที่พรรคปชป.พูดเกือบทั้งหมดจะเป็นการโจมตี หรือโต้ตอบประเด็นการเมือง และมีบ้างที่เป็นการพูดถึงนโยบายแต่ก็เพียงสั้นๆ
ในเวลาที่มีเพียงเล็กน้อยนี้ จะขอวิจารณ์เฟซบุ๊ค "มาร์ค" ภาค 3 สักหน่อย เห็นว่าเป็นประเด็นที่คุณอภิสิทธิ์ตั้งใจอธิบายเอาจริงเอาจังทีเดียว
คุณอภิสิทธิ์เน้นมากเรื่อง "ผมไม่ได้สั่งฆ่า 91 ศพ" โดยลำดับเหตุการณ์เพื่อจะแสดงให้เห็นว่ามีคนวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนที่จะยัดเหยียดให้ตนเป็น "ฆาตกรสั่งฆ่าประชาชน"
เรื่องการเจรจาออกทีวีแล้วไม่ลงตัว ไม่สามารถหาข้อยุติได้นั้น ใครพูดอะไรอย่างไรและทำไมจึงตกลงกันไม่ได้ คนส่วนใหญ่ที่ดูอยู่ในวันนั้นคงจำได้
โดยสรุปคือช่วงเวลายังต่างกันมาก และเมื่อตกลงกันยังไม่ได้การเคลื่อนไหวเรียกร้องก็ดำเนินต่อไปซึ่งก็ยัง ไม่มีการเสียชีวิตจนกระทั่งวันที่ 10 เม.ย.
คุณอภิสิทธิ์พูดถึงเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.โดยไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และบังเอิญผมอยู่ในเหตุการณ์บางตอนของวันนั้นด้วย ผมจะชี้ว่าไม่ตรงอย่างไร
คุณอภิสิทธิ์ยอกว่ามีการขอคืนพื้นที่ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎการใช้กำลังอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่บ่ายจนถึงหกโมงเย็นไม่มีการสูญเสีย
คุณอภิสิทธิ์บอกว่าเมื่อเริ่มมืดก็เริ่มมีการเจรจาให้สองฝ่ายอยู่กับที่แต่ไม่เป็นผล จึงมีการสั่งให้ถอนกำลังกลับ จากนั้นสงครามเต็มรูปแบบก็เกิดขึ้น
คุณอภิสิทธิ์บอกว่าหลังคำประกาศของอริสมันต์ไม่นาน..ชายชุดดำแฝงตัว...โจมตีทหารจนเกิดการสูญเสียชีวิตทั้งทหารและประชาชน....
คุณอภิสิทธิ์บอกว่าตนและผู้นำเหล่าทัพ..เกิดอาการช็อคและว่าวันนั้นเป็นวันที่ตนสลดใจมากที่สุดในช่วงที่เป็นนายกฯ..ย้ำว่ามีกองกำลังติดอาวุธ...
ที่คุณอภิสิทธิ์ชี้แจงคลาดเคลื่อนก็คือตั้งแต่ช่วงกลางวันรัฐบาลและศอฉ.ประกาศ ขอคืนพื้นที่และประกาศว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในเวลาหกโมงเย็น
ใกล้ถึงหกโมงเย็นก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดปฏิบัติการ ยังคงเดินหน้าไปเรื่อย ช่วงนั้นไปถึงเวทีที่ผ่านฟ้าและขึ้นเวทีปราศรัยเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการขอ คืนพื้นที่ไว้ก่อน
ผมพูดกับคุณอภิสิทธิ์และคุณอนุพงษ์ว่ากำลังจะมืด อย่างไรก็ไม่มีทางยึดพื้นที่คืนได้ก่อนมืด เพราะฉะนั้นขอให้ยุติและถอนกำลังออกไปก่อน วันรุ่งขึ้นค่อยว่ากันใหม่
ระหว่างนั้นไม่มีวี่แววว่ารัฐบาลจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ถอยอย่างที่คุณอภิสิทธิ์พูด ในเฟซบุ๊ค เพราะมีเฮลิคอปเตอร์บินวนอยู่ตลอดและสถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นๆ
ผมพูดไปจนหกโมงกว่าก็ได้รับโน้ตจากหลังเวทีว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิตแล้วหนึ่งคน ซึ่งผมก็ยังพูดต่อไปเพื่อย้ำว่าหากไม่ยุติ ยิ่งมืดมากจะยิ่งอันตราย
ผมพูดจบ ตอนจะลงเวทีก็ยังถูกแก๊สน้ำตาที่โปรยลงมาจากฮ.ที่วนเวียนอยู่ แสดงว่าระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ละความพยายามที่จะสลายการชุมนุม
หลังจากนั้นเพียงครู่เดียวก็ทราบว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิตอีกหลายคน ซึ่งต่อมาก็มีการนำศพมาแสดงว่ามีการเสียชีวิตจริง ขณะนั้นยังไม่มีการโจมตีของคนชุดดำ
เวลาผ่านไปอีกเป็นชั่วโมง จนมีคนเสียชีวิตไปหลายคนแล้ว จึงมีการติดต่อเจรจาระหว่างตัวแทนของรัฐบาลกับนปช.โดยรัฐบาลขอให้ผมเป็นคนกลาง
ฝ่ายรัฐบาลถามผมว่าจะช่วยพูดกับนปช.ได้หรือไม่ ผมบอกไปว่าจะพยายามและว่าจะต้องรีบยุติมิฉะนั้นจะเสียหายมาก รัฐบาลบอกว่าจะหยุดแต่ขอให้นปช.พูดก่อน
ต่อมาหลังจากประสานไปมาทั้งสองฝ่ายก็ประกาศหยุด แต่หลังจากนั้นฝ่ายรัฐบาลก็ติดต่อมาอีกว่ามีพวกที่โจมตีเจ้าหน้าที่ด้วย อาวุธหนัก ขอให้ผมช่วยพูด?
ผมบอกไปว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ไม่รู้จะพูดกับใคร ได้แต่แนะนำว่าให้เจ้าหน้าที่ถอยออกไปจากบริเวณที่ชุมนุมก่อน ประชาชนจะได้ไม่เสียหาย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ถอยไปและการปะทะก็สิ้นสุด
มีผู้เสียชีวิต 20กว่าคนซึ่งถือว่าร้ายแรงมาก
ประเด็นคือถ้ายุติการขอคืนพื้นที่เสียก่อนมืดก็คงไม่สูญเสียอย่างนั้น ที่ไม่ยุติเพราะรัฐบาลต้องการยึดพื้นที่คืนให้ได้จริงๆ
การที่คุณอภิสิทธิ์โยนเรื่องทั้งหมดไปที่คนชุดดำจึงไม่ตรงกับความเป็นจริง ไม่อาจกลบเกลื่อนความผิดของรัฐบาลและศอฉ.ได้
เฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 10 เมย.ก็เกินพอที่ทำให้คุณอภิสิทธิ์หมดความชอบธรรมแล้วส่วนความเสียหายหลังจากนั้นก็ย่อมไม่พ้นความรับผิดชอบของรบ.
เหตุการณ์หลัง 10 เมย.ผมจะไม่ขอวิจารณ์ในตอนนี้เพราะคุณอภิสิทธิ์พูดมาถึงวันที่10 เมย. เท่านั้น ก็ขอวิจารณ์แค่วันที่10 เมย.ซึ่งผมคิดว่าก็หนักแล้ว
No comments:
Post a Comment