Monday, December 10, 2012

"มาร์ค-เทือก"กับข้อหาคดีฆ่า

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd2Iyd3dNakV3TVRJMU5RPT0=%C2%A7ionid=TURNd05BPT0=&day=TWpBeE1pMHhNaTB4TUE9PQ==

วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 8047 ข่าวสดรายวัน


"มาร์ค-เทือก"กับข้อหาคดีฆ่า


รายงานพิเศษ



เสียงวิพากษ์วิจารณ์ให้หลังพนักงานสอบสวนคดี 99 ศพ ชุดของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 



ตั้งข้อกล่าวหา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีต นายกฯ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ยังมีต่อเนื่อง



ส่วนใหญ่เป็นความเห็นของคนในแวดวงการเมือง ทั้งจากซีกเพื่อไทยและประชาธิปัตย์



นี่เป็นอีกมุมมองของฝ่ายสันติวิธี ภาคประชาชน และญาติเหยื่อ ในเหตุการณ์สลายการชุมนุม ปี 2553 



พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ 

ผอ.สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล

สถาบันพระปกเกล้า



ดีเอสไอตั้งข้อกล่าวหาอย่างนี้ก็แสดงว่าต้องมีหลักฐาน ภาพ พยานบุคคล ขณะที่ทั้ง นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ก็เคยบอกว่าเป็นฝีมือฝ่ายเดียวกันทำ เมื่อ 2 ฝ่ายไม่ยอมรับและยืนยันอย่างนี้ก็ต้องไปสู้กันในชั้นศาล สู้กันด้วยข้อมูล เอกสารหลักฐาน 



ศอฉ.ก็ต้องชี้แจงให้ได้ว่าไม่ได้สั่ง เป็นผู้ปฏิบัติเอง หรือเปล่าที่ทำ ฝ่ายผู้ปฏิบัติก็ต้องให้เหตุผล เช่น เป็นเรื่องฉุกเฉิน ทหารต้องมีหลักฐานว่าคำสั่งให้กระทำอะไร ขนาดไหน เพราะปกติคำสั่งต้องออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งจะเป็นเอกสารพยานว่าได้รับคำสั่งมาอย่างไร



ผมเคยคุยกับทหารเขาบอกว่าทุกคน มีคู่มือปฏิบัติไว้ในกระเป๋าว่าการปฏิบัติตามขั้นตอนทำอย่างไร เช่น ใช้อาวุธก็ต่อเมื่อฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธก่อน ถึงใช้อาวุธ เพื่อป้องกันตัว ซึ่งต้องไปพิสูจน์กันว่า คนที่เสียชีวิตแต่ละรายมีอาวุธใกล้ตัวหรือเปล่า



ส่วนตัวผมเชื่อมั่นว่าศาลสถิตยุติธรรมจะตัดสินด้วยความเที่ยงธรรม และจะทำให้เรื่องจบได้ จึงไม่เชื่อเรื่องนี้จะเพิ่มความแตกแยกขัดแย้งในสังคม สถานการณ์ไม่น่าจะร้อนแรง 



เคยพูดกันไม่ใช่หรือว่าใครทำอะไรมาอย่างไรให้ไปว่ากันในศาล เช่น คนเสื้อแดงเคยต่อต้านคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ระบุ คตส.มาโดยไม่ชอบธรรม เป็นฝ่ายตรงข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร การดำเนินการจึงไม่ถูกต้อง 



แต่เมื่อศาลตัดสิน รัฐบาลขณะนั้น ก็บอกว่าเราเชื่อกระบวนการยุติธรรม เมื่ออ้างกันแบบนี้ก็ต้องสู้กันด้วยกระบวนการยุติธรรม 



กล่าวหากันว่า คตส.ไปเข้าข้างโน้น ดีเอสไอเข้าข้างทางนี้ บนชั้นศาลหลักฐานเท็จใช้พิสูจน์ไม่ได้ และคดีที่ดำเนินการจาก คตส.ก็ขึ้นสู่ศาลเช่นกัน 



ที่บอกว่าเรื่องนี้เป็นการเมืองไม่น่าจะใช่ ผมไม่เชื่อมั่นในองค์กรอิสระบางแห่ง แต่ผมยังเชื่อมั่นศาลสถิตยุติธรรม ไม่เชื่อใครจะบังคับศาลได้ 



หรือถ้าเป็นการเมือง คดีวัดปทุมฯ ดีเอสไอก็ชี้มาก่อนล่วงหน้าแต่กระบวนการสอบพยานยังไปไม่ถึงไหนเลย 



บางทีอาจมีการโต้แย้งองค์กรอิสระ แต่ผมเชื่อทุกคนเคารพศาล เช่น คดีใหญ่บางคดีเมื่อศาลตัดสินอย่างไร ก็จบได้ด้วยดี 



แม้ตอนนี้กระบวนการยุติธรรมส่วนกลางคือ อัยการ ดีเอสไอ องค์กรอิสระ คนจะขาดความเชื่อถือไปมากแล้ว แต่ยังเชื่อมั่นในขั้นตอนสุดท้ายคือศาลสถิตยุติธรรม 



ส่วนที่กลัวว่าสุดท้ายแล้วก็เอาผิดระดับสั่งการหรือหัวหน้าไม่ได้ ผมว่าทุกคนโดนหมด บางคนถูกฟ้องกว่า 50 คดี ก็ต้องมีโดนสัก 2 คดีแน่นอน 



เรื่องคดีจะปล่อยเลยตามเลยไม่ได้ ไม่อย่างนั้น บ้านเมืองจบไม่ได้



ผัน คำกอง

พี่ชาย พัน คำกอง



คำตัดสินของศาลที่ระบุว่า น้องผมเสียชีวิตจากการ กระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ถือว่าเป็นความยุติธรรมที่มีให้กับน้องชายและครอบครัวของผม 



ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา นับจากเขาเสียชีวิต ผมพร้อมญาติคนอื่นๆ พยายามติดตามทวงถามหาความยุติธรรมมาโดยตลอด จนมาถึงวันนี้ก็ดีใจที่ผลตัดสินออกมา 



ที่ผ่านมารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ ตอนนั้น และมี นายสุเทพ รองนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. พยายามโยนความผิดให้กลุ่มชายชุดดำมาโดยตลอดว่าเป็นคนฆ่าประชาชน ทั้งๆ ที่ตั้งแต่เกิดเหตุ ยังไม่มีหน่วยงานใดจับกุมตัวชายชุดดำ มาดำเนินคดีได้แม้แต่รายเดียว



ที่พนักงานสอบสวน ออกหมายเรียกนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ มารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าวถือว่าถูกต้องแล้ว ผมเชื่อว่าการออกหมายเรียกดังกล่าวไม่ใช่เรื่องการเมือง เพราะความจริงก็คือความจริง 



ผมขอพูดในฐานะที่เป็นคนกลาง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผมและคนในครอบครัวเป็นผู้สูญเสีย เราต้องการความจริง และน้องชายผมเสียชีวิตไปทั้งคน สิ่งไหนที่พอเรียกร้องให้ได้ ก็จะทำ ส่วนลูกของพันทั้งหมด 4 คน ต้องอยู่กับแม่ที่ต่างจังหวัด 



วันที่ 13 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ ผมอยากไปดูหน้าทั้งนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ อยากให้เขาขอโทษญาติผู้เสียชีวิต พวกผมไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุทั้งคู่ ไม่เคยขอโทษเลย 



สมบัติ บุญงามอนงค์ 

บ.ก.ลายจุด แกนนอนวันอาทิตย์ 



ส่วนตัวคิดว่าการตั้งข้อหานี้เหมาะสม เราต้องดูข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์เริ่มมาจากการมีประชาชนเสียชีวิตในพื้นที่ที่มีการสลายการชุมนุม แล้วศาลมีคำสั่งว่าการเสียชีวิตนั้นเกิดขึ้นจากการกระทำของทหาร 



ทหารที่ปฏิบัติการก็ได้รับคำสั่งมาจากรัฐบาล จึงเป็นเหมือนผลของกระบวนการที่ตามมาจากต้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการ ส่วนนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ จะไปต่อสู้กันในศาลอย่างไรก็ต้องดูกันต่อไป แล้วศาล ก็จะเป็นผู้ตัดสินเอง 



กรณีพรรคประชาธิปัตย์มองว่าทำไมถึงมาเร่งรีบเอาตอนนี้ ผมก็คิดว่าไม่ได้เร่งรีบอะไร เพราะเหตุการณ์ผ่านมานานกว่า 2 ปี รู้สึกว่ากระบวนการช้าไปด้วยซ้ำ



ในประวัติศาสตร์เคยมีนายกรัฐมนตรีที่สังหารประชาชนหลายครั้ง ตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 แต่ไม่เคยเป็นคดี และไม่สามารถเอาความผิดได้ แต่ตอนนี้ประเทศเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ถ้าศาลตัดสินว่าผิด นายอภิสิทธิ์ก็ต้องเข้าไปอยู่ในคุก 



คดีในครั้งนี้จะถือเป็นมาตรฐานที่ดีในอนาคต ทุกคน ในสังคมประชาธิปไตยที่ถูกกระทำก็มีสิทธิ์จะใช้กระบวน การทางศาลได้ 



แต่สังคมต้องรอคอยผลและไม่ควรออกพ.ร.บ. นิรโทษกรรม ก่อนที่ศาลจะตัดสิน หากนายอภิสิทธิ์ถูกตัดสินว่าผิดจริงแล้ว จะมีการนิรโทษกรรมในภายหลังหรือไม่ ก็ค่อยมาว่ากันอีกที เพราะสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ ทำมีความผิด และต้องเป็นผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ แต่สถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรมาคั่นกลางและทำให้สิ่งเหล่านี้มันเคลื่อนไปหรือไม่ 



คาดว่าเรื่องนี้จะยาว นานแน่นอน และตอนนี้นายอภิสิทธิ์ก็เป็นข่าวดังไปทั่วโลกว่าเป็นอดีตนายกฯ ไทย ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหานี้ 



ข้อเสนอที่ว่าควรจะเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตด้วย ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่สมควรเพราะสงสัยเหมือนกันว่าทำไมเจ้าหน้าที่ถึงได้ยิงโดยไม่ตรวจสอบ ถ้าขณะนั้นเกิดเหตุการณ์ชุลมุนหรือมีการต่อสู้ประชิดตัว ก็ว่าไปอย่าง



แต่จากหลักฐานเดือนพ.ค.2553 ก็เห็นชัดว่ามี เจ้าหน้าที่ถือปืนที่ติดกล้องเล็งยิงจากระยะไกล ต้องสอบสวนให้ได้ว่าเกิดจากการกระทำที่ย่ามใจและ คึกคะนอง หรือสมควรแก่เหตุหรือไม่ 



ส่วนผู้บังคับบัญชาก็ต้องอธิบายความเกี่ยวกับคำสั่งให้ชัดว่ามีขอบเขตแค่ไหนและรายละเอียดการปฏิบัติ เป็นอย่างไร



จากข้อหานี้อาจทำให้คนเสื้อแดงรู้สึกดีขึ้นที่กระบวน การยุติธรรมเดินหน้า แต่จะทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้นหรือไม่นั้นคงต้องดูปฏิกิริยาไปเรื่อยๆ ก่อน เพราะขณะนี้ยังเป็นแค่กระบวนการทางศาลอยู่ แล้วคดีก็ยังไม่ถึงที่สุด 



ส่วนที่ประชาธิปัตย์ระบุรูปคดีเป็นอย่างนี้เพราะรัฐบาลต้องการบีบให้นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ยอมรับพ.ร.บ. นิรโทษกรรม คงเป็นไปไม่ได้ และทั้งสองคนก็แสดงความกล้าหาญว่าจะไม่ยอมรับกฎหมายดังกล่าวแน่นอน ผมก็เห็นด้วยและขอชื่นชม



ที่นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพถูกตั้งข้อหานี้ คงไม่ใช่เรื่องกลั่นแกล้งทางการเมืองอย่างแน่นอน แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่ทั้งสองคนต้องจ่ายคืน

No comments:

Post a Comment