Wednesday, April 7, 2010

การทำให้กองทัพเป็นของประชาชน

การทำให้กองทัพเป็นของประชาชนคือการสกัดมิให้อำมาตย์เป็นใหญ่ในแผ่นดินและทำให้ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงเกิดขึ้น

 

ประเทศอื่นๆที่มีวัฒนธรรมการเมืองสูงหรือพัฒนาแล้วทางการเมือง (high  political  culture)ทหารไม่มีอำนาจเหนือระบบการเมืองและไม่มีวันมีอำนาจเหนือระบบการเมืองได้  เพราะประชาชนและทหารคือคนกลุ่มเดียวกัน   ในประเทศเหล่านี้กองทัพได้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยประชาชน เป็นกองทัพประชาชนโดยแท้โดยไม่มีบุคคลนอกระบบการเมืองหรือผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญหรืออำมาตย์มาคอยแอบขโมยอำนาจของประชาชนในการแต่งตั้งทหารระดับต่างๆในกองทัพแต่อย่างใดเนื่องจากในสังคมเหล่านั้นไม่มีอำมาตย์เพราะสภาพแวดล้อมของสังคมประเทศที่พัฒนาแล้วทางการเมืองไม่เอื้ออำนวยให้เกิดระบบอำมาตย์ขึ้นได้


       
แต่ในประเทศด้อยพัฒนาทางการเมืองหรือมีวัฒนธรรมทางการเมืองระดับต่ำ (low  political  culture)อย่างเช่นประเทศไทยนั้น ทหารกับประชาชนแยกกันเป็นคนละกลุ่มเกือบจะโดยสิ้นเชิง   ทหารในประเทศด้อยพัฒนาทางการเมืองไม่ยึดถือและไม่ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยและไม่ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยเพราะเห็นว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยส่งเสริมให้ทุกคนมีเสรีภาพและมีสิทธิเท่าเทียมกันซึ่งจะเป็นการขัดขวางมิให้ทหารสามารถแยกตัวออกเป็นอีกชนชั้นที่เป็นคนละพวกคนละฝ่ายกับประชาชนทั่วไปและไม่สามารถวางตัวเป็นชนชั้นปกครอ งผู้ซึ่งมีอภิสิทธิเหนือประชาชนทั้งหลายและมิต้องอยู่ภายใต้กฏหมายหรือระเบียบหรือกฏเกณฑ์ใดๆดังเช่นที่ฝ่ายประชาชนจะต้องเผชิญอยู่แต่อย่างใด    เห็นได้ชัดว่าทหารในประเทศด้อยพัฒนาไม่พอใจที่มีสถานภาพเท่ากับประชาชนและจึงมีเหตุผลที่ไม่พอใจระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยและจึงลงมือต่อต้านการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่รวมทั้งเต็มใจที่จะสนับสนุนการปกครองระบอบอื่นๆที่ส่งเสริมให้แบ่งแยกชนชั้นเป็นชนชั้นอภิสิทธิชนหรือชนชั้นปกครองกับชนชั้นผู้ถูกปกครองและส่งเสริมให้ทหารไ ด้อยู่ฝ่ายเดียวกับอภิสิทธิชนหรือฝ่ายผู้มีอำนาจปกครอง
 
     
จากการที่ทหารในประเทศด้อยพัฒนาเป็นกลุ่มที่ผูกขาดการใช้อาวุธและเป็นกลุ่มที่มีการจัดตั้งองค์กรอย่างเป็นระบบอย่างดีที่สุดเพื่อทำการสู้รบและใช้ความรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในสังคมทหารจึงเป็นกลุ่มที่ทรงอำนาจสูงสุดในสังคมซึ่งตัดสินความขัดแย้งทางการเมืองโดยใช้ความรุนแรงและอาวุธเป็นเครื่องมือตัดสินแทนความมีเหตุผลและความช อบธรรม   สังคมเช่นนี้จึงเอื้ออำนวยให้ทหารมีอำนาจสูงสุดและผูกขาดอำนาจเหนือสังคมในการกำหนดโครงสร้างสังคมและจัดตั้งกลไกต่างๆของสังคมเพื่อสนองตอบผลประโยชน์ของทหารซึ่งเป็นกลุ่มผู้ปกครองหรือชนชั้นปกครองของประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด


    
เนื่องจากทหารในประเทศด้อยพัฒนาทางการเมืองเป็นปฏิปักษ์กับการปกครองระบอบประชาธิปไตยด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นระบบต่างๆในสังคมจึงถูกกำหนดขึ้นมาให้เป็นปฏิปักษ์กับประชาชนและส่งเสริมอำนาจเผด็จการหรืออำนาจของทหารอยู่เสมอ  และนี่คือที่มาของปรากฏการณ์"สองมาตรฐาน"


   
อำนาจอธิปไตยในประเทศด้อยพัฒนาทางการเมืองเหล่านี้จึงอยู่ในมือของทหารอย่างเด็ดขาด   ประชาชนไม่มีอำนาจอธิปไตยแม้แต่นิดเดียว และอำนาจที่สั่งใช้อาวุธปืนคืออำนาจอธิปไตยซึ่งอยู่ในมือของทหารเรียบร้อยแล้วนั่นเอง   ประชาชนจึงต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และต้องยอมศิโรราบให้แก่อำนาจทหารเสมอ  สังคมเช่นนี้จึงเป็นสังคมที่เอื้ออำนวยให้เกิดกลุ่มอำมาตย์และผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญอยู่เสมอ  รัฐธรรมนูญไม่มีความหมายอันใดเพราะใช้บังคับต่อประชาชนเท่านั้น ส่วนฝ่ายอำมาตย์ไม่ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเลยแม้แต่น้อย   ความทุกข์ยาก  ความไม่เสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม ความไม่ยุติธรรม ความลำเอียง การมีสองมาตรฐานในด้านต่างๆจึงเป็นปรากฏการณ์ที่มีให้เห็นอยู่ตลอดเวลา


   
ในประเทศด้อยพัฒนาเนื่องจากที่มาของอำนาจมาจากการใช้อาวุธและการใช้ความรุนแรงเป็นหลักโดยมิได้มีที่มาจากเหตุผลหรือการเล็งเห็นผลประโยชน์ร่วมกันของคนในสังคม  ดังนั้นอำนาจดังกล่าวจึงตกอยู่ในมือของกลุ่มผู้ถืออาวุธและผูกขาดความรุนแรงซึ่งหมายถึงกลุ่มทหารนั่นเอง   เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนั้นด้อยการศึกษา  ด้อยความคิด  ด้อยสติปัญญา และด้อยเหตุผลนั้นเองจึงไม่นิยมใช้เหตุผลและสติปัญญาเป็นเครื่องมือในการตัดสินข้อ
พิพาทระหว่างกันหรือตัดสินข้อพิพาททางการเมืองแต่กลับใช้กำลังกาย  อาวุธและความรุนแรงเป็นเครื่องมือหลักในการตัดสินข้อพิพาทส่วนตัวหรือข้อพิพาททางการเมือง  สังคมเช่นนี้ผู้ถืออาวุธจึงเป็นใหญ่ ส่วนผู้ทรงสติปัญญาหรือมีเหตุผลกลับต้องกลายเป็นผู้ถูกปกครองหรือเป็นไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินไป  การเมืองก็จึงไม่พัฒนาและกลายเป็นวงจรอุบาทว์อยู่เช่นนี้ตลอดไปตราบใดที่ยังไม่มีคนดีมาตัดวงจรอุบาทว์ดังกล่าวโดยการสร้างค่านิยมประชาธิปไตยและปัจจัยบั่นทอนอำนาจทหารและปัจจัยส่งเสริมอำนาจของประชาชน


   
ในสังคมด้อยพัฒนา  บรรดาผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญทั้งหลายต่างแย่งกันใช้อำนาจนอกรัฐธรรมนูญที่มีอยู่เพื่อแต่งตั้งทหารระดับต่างๆเพื่อให้ทหารเหล่านั้นเป็นทาสรับใช้ตนซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งและเป็นศัตรูกับประชาชนและพร้อมที่จะปราบปรามประชาชนเพื่อสนองตอบประโยชน์ของอำมาตย์หรือผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นผู้สั่งการ    ด้วยเหตุนี้เองกองทัพแห่งชาติของประเทศด้อยพัฒนาทางการเมืองเช่นนี้จึงไม่ได้เป็นกองทัพของประชาชนเพราะประชาชนไม่ได้แต่งตั้งมาเนื่องจากประชาชนไม่มีอำนาจอธิปไตยด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น


    
ในประเทศซึ่งประชาชนมีอำนาจอธิปไตยได้แก่ประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่มีความรู้ มีการศึกษา มีความฉลาด มีสติปัญญาเท่านั้น  ในประเทศเช่นนี้ ปืนหรือความรุนแรงไม่มีความหมายเพราะไม่อาจสู้เหตุผลได้  ดังนั้นผู้ที่ถือปีนหรือผู้ที่เป็นทหารจึงไม่มีอำนาจใดๆในสังคม และไม่มีอำนาจเหนือประชาชนใดๆทั้งสิ้น  ผู้ถืออาวุธปืนหรือผู้เป็นทหารจึงดำรงอยู่เพื่อรับใช้ผู้มีเหตุผลหรือประชาชนทั่วไปเท่านั้น  ดังนั้นทหารจึงไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยในฐานะทหารได้เลย(แต่มีอำนาจอธิปไตยในฐานะประชาชนคนหนึ่งเท่านั้น) ส่วนประชาชนกลับมีอำนาจอธิปไตยอย่างเด็ดขาดและมีอำนาจเหนือกลไกของรัฐทั้งปวงซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นและดำรงอยู่เพื่อรักษาประโยชน์ของส่วนรวมเท่านั้น   ในประเทศเช่นนี้ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญจึงไม่อาจสอดมือเข้าไปล้วงลูกแอบแต่งตั้งทหารในกองทัพแห่งชาติเพื่อให้เป็นคนรับใช้ส่วนตัวของมันได้    ดังนั้นกองทัพจึงเป็นกองทัพของชาติหรือเป็นสมบัติของส่วนรวมจริงๆ  ประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของกองทัพแห่งชาติจริงๆ กองทัพจึงไม่สามารถทรยศต่อประชาชน   ไม่สามารถหันปากกระบอกปืนเข้าใส่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของกองทัพได้ เปรียบประดุจที่สุนัขไม่มีวันหันมาทำร้ายเจ้าของได้เลย(หากไม่กลายเป็นสุนัขบ้า)


     
ดังนั้น  การทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยโดยการกำจัดผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญหรือป้องกันมิให้บุคคลดังกล่าวมีโอกาสล้วงลูกเข้ามาแต่งตั้งทหารในกอง
ทัพได้จึงเป็นการทำให้อำนาจอธิปไตยกลายเป็นอำนาจของประชาชนอย่างแท้จริง  ทำให้สังคมมีความยุติธรรมมาตรฐานเดียว  มีความเจริญก้าวหน้าโดยแท้จริง


    
การให้รัฐบาลซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดในการแต่งตั้งทหารทุกระดับในกองทัพเป็นการทำให้กองทัพเป็นกองทัพของประชาชนหรือเป็นกองทัพของส่วนรวมโดยแท้และทำให้ไม่มีผู้ใดสามารถใช้อำนาจสั่งการกองทัพเสมือนเป็นทรัพย์สมบัติส่วนตัว(แต่ทหารกินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน)ได้อีกเลย


    
เมื่อกองทัพเป็นกองทัพของประชาชนโดยแท้  ทหารก็จะกลายเป็นทหารอาชีพ(professional  soldiers)ไปโดยปริยายทำให้มีศักยภาพในการสู้รบมากขึ้นและไม่มีศักยภาพในการเป็นทหารการเมืองได้อีกต่อไปนั่นหมายความว่าไม่สามารถปราบปรามประชาชนได้เลยและทหารจะไม่สามารถถูกใช้เป็นเครื่องมือของใครคนใดหรือกลุ่มใดได้อีกเลย


    
หากไม่สามารถจัดการกับกองทัพของชาติที่เป็นศัตรูของประชาชนหรือเป็นกองทัพของอำมาตย์แต่ใช้ชื่อหลอกลวงผู้คนว่าเป็นกองทัพของชาติมันก็ยังมีวิธีอีกหนึ่งวิธีที่เหลือคือการจัดตั้งกองทัพของประชาชนขึ้นมาแข่งขันกับกองทัพของชาติและเข้าแทนที่กองทัพของชาติในท้ายที่สุดเพื่อทำให้ประเทศเป็นของประชาชนทุกคนและทำให้อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนจ ริงๆ


    
หวังว่าประเทศไทยคงไม่ถึงกับต้องมีการตั้งกองทัพประชาชนมาแข่งขันกับกองทัพของชาติซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนตลอดเวลาว่าพร้อมที่จะห้ำหั่นฆ่าฟันประชาชนเพื่อรับใช้อำมาตย์หรือกลุ่มผู้เป็นศัตรูของประชาชนอย่างที่เห็นอยู่ในขณะนี้


                                
เสือ   สลาตัน

No comments:

Post a Comment