กำลังรอดูว่า เฉลิม อยู่บำรุงคือ ม้าไม้เมืองทรอยหรือไม่

http://thaifreenews.org/?name=politics&file=readpolitics&id=541

บทความโดย...ลูกชาวนาไทย

นับวันผมยิ่งสงสัยในบทบาทของเฉลิม  อยู่บำรุงมากขึ้น

แต่ผมก็ยังไม่ได้ฟันธงเสียทีเดียวว่า เขาคือ ม้าไม้เมืองทรอย หรือไม่ 
แต่หากบทบาทยังเป็นอย่างนี้ต่อไป คาดว่าจะทำให้พรรคเพื่อไทยกับคนเสื้อแดง มีรอยแยกอย่างแน่นอน

และหากมีรอยแยกระหว่างเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยเมื่อไหร่ "ทักษิณ ชินวัตร" ซึ่งก็คือหอกข้างแคร่ เสี้ยนหนามของระบอบอำมาตย์ ก็ตายเมื่อนั้น

หากมีรอยโหว่ ที่จะกำจัดชินวัตรได้ พวกอำมาตย์ไม่ปล่อยเอาไว้แน่ๆ

เพราะนี่ไม่ใช่สงครามส่วนบุคคลที่จะขึ้นกับความเมตตาสงสารของ "บุคคล" ใด แต่มันคือความเป็นความตาย ของระบอบการเมืองดั้งเดิมนั้นเลยทีเดียว หากเป็นสมัยโบราณ สมัยสามก๊ก หรือสมัยอื่นๆ ของจีน แม้ฮ่องเต้จะรักและเมตตาขุนนางผู้นั้นสักเพียงใด แต่การดำรงอยู่ของขุนนางผู้นั้นมันขัดแย้งกับการดำรงอยู่ของฮ่องเต้ เขาก็จำเป็นต้องกำจัดให้สิ้นเสี้ยนหนามนั้นให้สิ้นซาก

ประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลที่ 1 เราก็เห็นว่า เมื่อได้อำนาจ กรมพระราชวังบวรสถานมงคลฯ พระอนุชารัชกาลที่ 1 ก็กำจัดลูกหลานพระเจ้ากรุงธนฯไปสิ้น แม้ว่าหนึ่งในนั้นจะเป็น หลานคนแรกของ รัชกาลที่ 1 แต่ก็เป็นลูกเสือลูกจระเข้ เลี้ยงเอาไว้ก็จะเป็นเสี้ยนหนามต่อไป  

ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องที่จะต่อรองกันได้ เพราะมันไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างบุคคล แต่มันคือความขัดแย้งระหว่างระบบ ที่ "ตัวบุคคลของทักษิณ คือ เงื่อนไขสำคัญของฝ่ายต่อต้านอำนาจระบอบอำมาตย์

สำหรับผมแล้ว เฉลิม อยู่บำรุง คือนักการเมืองอาชีพ สภาวะที่พรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้งได้อำนาจอย่างสมบูรณ์นั้น อำนาจต่อรองของเฉลิมก็มีไม่มากนัก ขึ้นกับประโยชน์และความเมตตาของทักษิณ  แต่หากพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ที่ได้เสียงไม่ถึงครึ่ง อำนาจต่อรองของเฉลิม อยู่บำรุง ก็มีมากขึ้น เขาสนใจแต่ตำแหน่งและอำนาจของตนเท่านั้น หาได้สนใจยุทธศาสตร์โดยรวมของฝ่ายประชาธิปไตยไม่ 

การเอาใจระบอบอำมาตย์ของเฉลิม คือ การพยายามสร้างอำนาจต่อรองของเฉลิม กับทักษิณเท่านั้น

แต่เราก็ต้องรู้ความจริงข้อหนึ่งว่า "เฉลิม อยู่บำรุง" ไม่มีกำลังที่แท้จริง เขาไม่มีฐานที่มั่น สส. แบบเนวิน ชิดชอบ อำนาจของเขาจึงเป็นแค่ตัวกลาง นักล็อบบี้ นักต่อรองเท่านั้น หากทักษิณปลดเขาไป เขาก็หมดสิ้นทุกอย่างเหมือนกัน

วันนี้การเมือง เป็นแบบการเมือง "สองขั้วอำนาจ” หรือ Polarization Politic อย่างสมบูรณ์แล้ว การแบล็กเมล์ ของเฉลิม อยู่บำรุง จะไม่มีผลเหมือนยุคชาติชาย ชุนหวัณอีกแล้ว เพราะไม่ว่าอย่างไร ประชาชนจะเปลี่ยนข้างน้อยมาก วันนี้ประชาชนไม่ใช่คนดู ให้นักการเมืองมาแสดงให้ดู แต่ประชาชนคือผู้เล่น ที่ต้องการให้นักการเมืองเข้าไปเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่การต่อรองเพื่ออำนาจของนักการเมืองอีกต่อไป

แต่พรรคเพื่อไทย ทรยศต่อเจตจำนงค์ของประชาชน ประชาชนจึงจะทิ้งพรรคเพื่อไทย

ตอนนี้เรื่องเศรษฐกิจไม่ได้สำคัญเท่ากับ "อุดมการณ์ทางการเมือง" คนชั้นกลางเสื้อแดง ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยจนได้ที่นั่งในสภาเกินครึ่ง ไม่ได้ต้องการทางเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก แต่ต้องการให้รัฐบาลปฎิรูปการเมือง ตามที่พวกเขาต่อสู้อย่างเสียเลือดเนื้อมากว่า 5 ปี

แม้คนเสื้อแดงก้าวหน้าส่วนนี้จะไม่ใช่เสื้อแดงส่วนใหญ่ แต่กฌเป็นกลุ่มเสื้อแดงที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะกลุ่มเสื้อแดงรักทักษิณนั้น สามารถทำให้พรรคเพื่อไทยได้ที่นั่งในสภาแค่ 230 ที่นั่งเท่านั้น เหมือนยุคสมัคร ที่ไม่มีกระแสเสื้อแดง มีแต่กระแสรักทักษิณ

แต่ปัจจัยชี้ขาดที่ทำให้ พรรคเพื่อไทยได้เสียงเกินครึ่ง คือ "เสื้อแดงก้าวหน้า" ที่ทุ่มกำลังช่วยเหลือในการเลือกตั้งปี 2554 อย่างเต็มที่ หากขาดเสื้อแดงส่วนนี้ พรรคเพื่อไทยคงได้ 230 ที่นั่งบวกลบ ไม่มากเท่านั้น

หากได้เสียงขนาดนี้แม้จะเป็นพรรคอันดับหนึ่ง แต่ก็ได้เป็นฝ่ายค้าน แพ้อำนาจแฝงของอำมาตย์แน่ๆ นอน

ดังนั้น ขืนปล่อยให้ม้าไม้เมืองทรอย ทำลายฐานเสื้อแดงก้าวหน้า เพื่อไปเอาใจพวกกลุ่มอุลตร้ารอยัลลิสต์ที่ทำดีอย่างไรก็ไม่มีทางลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทยแล้ว  วันนั้นพรรคเพื่อไทย หากโดนยุบพรรคอีก ก็ตายสนิทอย่างแน่นอน

คุณทักษิณต้องชัดเจนในยุทธศาสตร์ในการต่อสู้ทางการเมืองครั้งนี้

 

ยุทธศาสตร์ของคุณทักษิณ ในวันนี้คือ ต้องบีบให้ฝ่ายอำมาตย์มาขอปรองดองด้วย

ไม่ใช่ไปคุกเข่าอ้อนวอน ขอให้พวกอำมาตย์ใปรองดองกับตน ทำอย่างนั้นพวกเขาไม่ยอมแน่นอน

วันนี้อำมาตย์ไม่เหลืออะไรในการต่อสู้อีกแล้ว มีแต่ "กลยุทธซากศพขงเบ้ง" เอาไว้หลอกสุมาอี้ ทักษิณเท่านั้น

หากทักษิณลุยแก้รัฐธรรมนูญ ลุยแก้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมต่างๆ
ในที่สุด ฝ่ายอำมาตย์ก็คงต้านกระแสประชาชนไม่ได้อยู่แล้ว

ยิ่งต้านประชาชนยิ่งลุกมาสู้
ทางรอดคือ ขอปรองดองกับทักษิณ
ไม่ใช่ทักษิณไป คุกเข่าขอปรองดองด้วย

วันนี้ผมไม่ทราบว่าคุณเฉลิมกำลังเล่นเกมอะไรอยู่ แต่เกมที่คุณเฉลิมเล่น ผมไม่เห็นว่ามันจะเป็นประโยชน์อะไรต่อพรรคเพื่อไทย หรือต่อระบอบประชาธิปไตย และการพัฒนาการทางการเมืองแต่อย่างใด นอกจากเป็นการเอาใจประจบประแจงพวกอำมาตย์ ซึ่งจะเอาใจอย่างไร พวกเขาก็คงไม่มีทางกลับมาเป็นมิตรด้วย 

หากเขามีโอกาสที่จะทำลายพรรคเพื่อไทย พวกเขาทำอย่างแน่นอน ไม่ลังเลด้วย

ดังนั้น คุณจะเล่นเกมประจบประแจงไปเพื่ออะไรไม่ทราบ
เพื่อให้เขาเอ็นดู แล้วตบหัวเล่นด้วยความเอ็นดูอย่างนั้นหรือ

เล่นเกม โดยไล่ตบหัวฐานเสียงของตน เอาใจศัตรูอย่างนั้นหรือ

หรือคิดว่าเพื่อให้พวกเขาเมตตา ไม่ทำรัฐประหาร

การทำรัฐประหาร หากเงื่อนไขทางสากล เงื่อนไขภายในมันเปิดทางให้พวกเขา ต่อให้ประจบอย่างไร พวกเขาก็ทำรัฐประหารแน่

แต่หากเงื่อนไขต่างๆ มันไม่เปิดโอกาสให้ ต่อให้ไล่กระทืบพวกเขา พวกเขาก็ทำรัฐประหารไม่ได้

มันไม่ใช่ว่าการประจบเอาใจ จะสามารถกำหนดอะไรได้

วันนี้พวกอำมาตย์สูญเสียมวลชน เสียการเมือง พวกเขาเพลี้ยงพล้ำทางการเมือง กำลังโปรประกันดาอย่างหนักด้วย "ฉากลิเกที่ล้าหลังเหมือนเดิม" เพื่อให้มวลชนกลับไปอยู่กับพวกเขาอีก  แต่คงยากที่จะทำให้ทาสที่สลัดโซ่ตรวนแล้ว ยอมกลับไปใส่โซ่อีก 

พวกเขาแพ้แล้วในทางอุดมการณ์ แล้วทำไมต้องไปรื้อฟืน สิ่งเก่า ๆ เหล่านี้อีก