Monday, March 14, 2011

Red shirts and lese majeste - Three Posted in One

http://thaipoliticalprisoners.wordpress.com/2011/03/14/red-shirts-and-lese-majeste/

Red shirts and lese majeste

Khun Pla

Readers will no doubt find this story at Prachatai of some interest. "Khun Pla," a red shirt, was "seized and taken to the police by guards of the United Front for Democracy against Dictatorship during the rally on Saturday when she was distributing leaflets containing information about Article 112, or the lèse majesté law, and royal assets."

The guards are said to have told the police that Khun Pla was distributing "offensive' materials" and they requested that she be charged. She was eventually released as the "police considered that the content in the leaflets did not constitute lèse majesté and decided not to press charges."

The report states that the "three UDD guards were dismissed from their duties because of the incident.'

Khun Pla later said on her Facebook page (need to log in to read it, in Thai) that "she had produced the leaflets by gathering information from the internet to be distributed among red shirts, particularly the elderly, who might not be familiar with computers and the internet. She and a couple of friends had paid for the photocopies themselves. The leaflets contain basic information, already legally available on the internet, about Article 112, royal assets, the Crown Property Bureau, and the Sufficiency Economy."

The People's Law Office (Thai) has more on the story and an update, including pictures of the incident and red shirts rallying against lese majeste.

There are several aspects to this story that are of concern. One aspect is that PPT can imagine that the publicity to this story will mean further police investigation, meaning that Khun Pla may well face charges (even using publicly available material is no great defense against lese majeste).

A second aspect relates to the relationship between the current UDD leadership, lese majeste and allegations of "deals" done for their release. It has been said that one element of an alleged release "deal" relates to eliminating all attacks on the monarchy by red shirts. Was this "arrest" and attempt to censor grassroots red shirts?

In a more recent article, Jim Taylor writing at Prachatai, claims that "Worawut Wichaidit (UDD Acting Spokesperson) announced on stage whoever is distributing any materials should be arrested." Khun Pla was thus picked up by the guards (who Taylor says included off-duty police). He says: "Nuttawut Saikua, who in fact gave a passionate speech on stage 12 March, tried bravely to fix the "error" after the arrest, but he and other UDD leaders need to make sure that mistakes like this never happen again."

His account also confirms that the lese majeste charges may indeed come back later as it seems lawyers urged her release rather than the police agreeing that there was no lese majeste involved..

...


From Facebook:

ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีเจ้าหน้าที่การ์ดนปช. นำส่งปลาให้คุณตำรวจสอบสวน

 เรียน พี่น้องท่านที่เคารพ,                                                                                                                                13 มี.ค. 54      

          

              หลังจากผ่านพ้นคืนวันอันยากลำบากเมื่อวาน (12 มี.ค.)  ตอบคำถามมิตรสหายที่ห่วงใยพร้อมให้ข้อมูลผู้ใหญ่อีกทั้งวัน รวมไปถึงพยายามจดจ่อกับข้อความมากมายที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างดุเดือด ทั้งรุนแรง เตือนสติ ติติง ด่าทอ ชื่นชม และให้กำลังใจ ซึ่งปลายินดีน้อมรับทุกความคิดเห็น จึงคิดว่าคงปล่อยทำมึนๆ อึนๆ อยู่เฉยอีกไม่ได้ เขียนอะไรเพื่อรับผิดชอบการกระทำ และชี้แจงเหตุการณ์เสียหน่อยดีกว่า

 

              เรื่องไม่มีอะไรมาก เตรียมเอกสารมา 3 ชุด โดยจุดประสงค์ในใจเพื่อให้ความรู้กับชาวบ้าน เจตนาตั้งใจให้ชาวบ้านที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต ได้เข้าถึงข่าวสาร รับรู้เหตุการณ์บ้าง

 

              หลังจากกรำงานหนักทั้งอาทิตย์ อดนอนวันศุกร์อีกทั้งคืน เพื่อผลิตงานที่อาจจะเป็นได้ทั้งโบดำและโบแดงสำหรับใครหลายๆ คน เสร็จตอนรุ่งสาง อาบน้ำแต่งตัว เตรียมอุปกรณ์กล้อง และโน้ตบุ๊ก เดินทางข้ามจังหวัด เอาต้นฉบับเอกสารมาหาที่พิมพ์ สอบถามร้านถ่ายเอกสารและโรเนียวมาไม่ต่ำกว่า 15 ร้าน เพื่อหาร้านที่ถูก และดีที่สุด ตั้งแต่มหาชัย จุฬา ธรรมศาสตร์ วังหลัง ปิ่นเกล้า แล้วก็กลับมาจบที่วังหลัง เงินติดตัว มีอยู่ 1500 บาท ทำได้แค่อย่างมาก 3 รีม หน้าหลัง ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม และด้วยความประมาทไม่ได้กดเงินออกมา พอจะใช้ขึ้นมาจริงๆ บัตร ATM และบัตรเครดิตทั้งหมดที่มี กดไม่ได้ ด้วยเหตุผลให้ติดต่อธนาคารเจ้าของบัตร  ตกลงใจ X-rox ทั้งหมดอย่างละรีม เสร็จสิ้นขบวนการ ราวๆ เกือบบ่าย 2 ข้าวเช้ายังไม่ตกถึงท้องและยังไม่ได้นอนเลย ถึงที่ชุมนุมราวบ่าย 2 กว่าๆ ฝนเริ่มโปรยลงมาพอเป็นกระษัย ในระหว่างหันรีหันขวางจะเอายังไง ก็เริ่มมีคนสงสัยใฝ่รู้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมวลชนสูงอายุ ที่ไม่น่าจะมี Facebook ไว้ระบาย เริ่มเดินมาเมียงมองสงสัยสอบถาม Target มาแล้ว!!!

 

                      จากนั้นคนแรกเริ่มดึง คนที่สองเริ่มตาม เอกสารเริ่มอยู่ในมือผู้สนทนา หันมาอีกที มีคุณการ์ดหนึ่งคนมาคว้าข้อมือ เอกสารออกไปอย่างค่อนข้างรุนแรง เจรจาว่าจะแจกอะไร ควรขออนุญาตส่วนกลาง เราจึงตกลงให้เค้าเดินนำเราไปที่ส่วนกลางเพื่อชี้แจงจุดประสงค์ในการแจกเอกสารอย่างเต็มใจ ไม่มีท่าทีขัดขืน เมื่อไปถึง เราขอเดินเข้าไปชี้แจงเรื่องที่มาของเอกสารและแสดงตนอย่างบริสุทธิ์ใจ การ์ดเดินไปรายงานผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เราค่อนข้างคุ้นเคย มีหน้าที่ดูแลการ์ดส่วนกลางโดยตรง หลังจากพบปะเห็นหน้าทักทาย ผู้ใหญ่รับรองกับทุกคนถึงสถานะของเราว่าไม่ใช่คนอื่นมาแฝง แกรู้จัก เราจึงแจ้งเรื่องเอกสารว่าจะขออนุญาต จากนั้นได้เดินแยกออกมาเพื่อกลับออกมาจากหลังเวที จากนั้นมีชายประมาณ 6 – 7 คน เข้ามาพูดคุยยึดเอาเอกสารไปจากมือเรา พร้อมทั้งขอค้นตัว ค้นกระเป๋า เมื่อความเหนื่อย อดนอน บวกกับความไม่เข้าใจในพฤติกรรมของการ์ดเริ่มปะทุออกมาในเวลาเดียวกัน ความไม่พอใจจึงเริ่มบังเกิด เราขอร้องแค่เพียงให้เขาอ่านเอกสารสักนิด เขาตอบกลับมาว่า "ไม่อ่าน ไม่มีอำนาจตัดสินใจ" และไม่ให้เรากลับเข้าไปพบผู้ใหญ่ท่านนั้นเพื่อสอบถามความชัดเจน ซึ่งภายหลังเราทราบว่าไม่ใช่การ์ดที่รับผิดชอบส่วนกลาง เพียงแต่อาจจะหวังดีและด่วนตัดสินใจ เนื่องจากซื่อตรง เคร่งครัดและตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากเราไม่เข้าใจว่าทำไมจึงไม่อ่านเอกสารทบทวนก่อน พิจารณาก่อน เมื่อเริ่มไม่รู้เรื่อง เริ่มเสียงดัง เค้าบอกเราว่า โอเค งั้นน้องมาคุยกับพี่ด้านนอก เราจึงเดินตามออกไป ด้วยเข้าใจว่าคงไม่น่ามีอะไร น่าจะตกลงเจรจากันได้ แต่ผลปรากฏ คือ เขานำเอกสารทั้งหมดไปวางปึ้ง! ที่โต๊ะเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมสำทับว่า น้องนี่ทำเอกสารหมิ่นมาแจก ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำและพิจารณาด้วย เราหันไปมองหน้าพวกเขาด้วยความไม่เข้าใจ ทวงถามว่าเหตุใดที่ด่วนตัดสินเรา ไม่ฟังความ แทนที่จะเจรจาคุยกัน แต่กลับเลือกที่จะทำเรื่องราวให้บานปลายใหญ่โต เราได้แต่บอกว่าขอให้ใครสักคนในที่นี้ช่วยอ่านสักนิด ช่วยพิจารณา ก่อนได้มั้ย จากนั้นแล้ว หากจะตัดสินเราว่าผิดอย่างไร ก็ค่อยมาว่ากันต่อ

 

                   ไม่มีคำตอบใดๆ มีเพียงแต่สายตาเหยียดหยามดูแคลนของการ์ดเพียงบางคน(ที่เข้าใจว่าเรามาแฝง) กับการตัดสินคนโดยด่วนสรุป และประโยคที่ว่า "เดี๋ยวเราไปคุยกันที่โรงพัก" จากคุณตำรวจ เราได้แต่ก้มหน้าจำทนกับความไม่ยุติธรรมที่เกิดตรงหน้า (ทราบภายหลัง --- คุณตำรวจบอก กลัวคนสวยโดนรุมประชาทัณฑ์ จากคนที่ไม่เข้าใจ)

 

จริงอยู่ ไม่ได้จับกุมคุมขัง

จริงอยู่ ไม่ได้ใส่กุญแจมือ

จริงอยู่ ไม่ได้มีการลงบันทึกการจับกุม

แต่หัวใจ โดนคุมขังไปแล้วเสียสิ้น...  กับคำกล่าวหาที่คุณตำรวจคนหนึ่ง เอ่ยกับเราว่า "คุณมันศรีธนญชัยนี่ !!!"

 

โดนพิพากษา???

 

                             ไปถึงสน.หลังจากคุณตำรวจทุกคนช่วยกันอ่านเอกสาร และกำลังพิจารณา เราตัดสินใจขอใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อยืนยันถึงที่มาของข้อมูล ว่าเป็นข้อมูลสาธารณะ เผยแพร่อย่างเปิดเผย ไม่ได้มีลับลมคมในเป็นที่ปกปิดแต่อย่างใด ความหวังเรายังคงมี ว่าคุณตำรวจอาจจะเข้าใจเนื้อหาที่เราพยายามสื่อสาร ประกอบกับไม่มีเจตนาจะรบกวนให้ผู้อื่นต้องมาเป็นธุระลำบาก เราจึงไม่ได้โทรติดต่อขอความช่วยเหลือจากใคร ใดๆ แต่สักพักไม่นาน มีคนหลายคนทยอยมากันอย่างที่เราเองก็ยังคงนึกงงๆ เพื่อนๆสนนท. ที่เราเองไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ได้แต่ทราบจากหน้าค่าตา ว่าใครเป็นใครในบัญชีรายชื่อเพื่อนใน FB ไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ เพื่อนๆคุณพ่อที่มาเป็นทั้งตัวแทนพรรคการเมืองและตัวแทนทางใจกับครอบครัว เพื่อนๆ พี่ๆ รวมไปถึงผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถืออีกหลายท่าน ทนายความและอาจารย์กฎหมาย และอีกนับไม่ถ้วนที่ทยอยกันมาอย่างไม่ขาดสาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเพื่อมารับฟังข่าวสารด้วยความห่วงใยและพยายามหาทางช่วยเหลือ (แต่ไม่ยักกะมีใคร เอาข้าวผัดกับโอเลี้ยงมาเยี่ยมแฮะ =_=" ) ระหว่างนั้นเราชี้แจงเรื่องที่มาข้อมูลและจุดประสงค์ในการจัดทำให้ จพนง.สืบสวนได้ทราบ พร้อมทั้งคุยกันอย่างเปิดใจ เป็นความโชคดีที่คุณตำรวจหลายๆท่านเปิดโอกาส ยินดีรับฟังคำอธิบาย ประกอบทั้งคำให้การ, หลักฐาน และเจตนา เจ้าพนักงานสืบสวนจึงลงความเห็นว่าไม่มีความผิด ไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาใดๆได้ ซึ่งก่อนจะได้รับการปล่อยตัวกลับบ้าน หลังจากอยู่ที่นั่นมาร่วม 6 - 7 ชั่วโมง รองผู้กำกับการยืนยันว่าเราต้องแสดงตน แหล่งที่อยู่ที่ชัดเจน เราจึงบริสุทธิ์ใจโดยพาไปที่บ้าน และได้กลับมาที่ชุมนุมอีกครั้ง เพื่อมาแสดงตนว่าบริสุทธิ์ และมาขอคำอธิบาย

 

ได้รับทราบว่าทุกคนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้รับทราบว่าไม่มีใครมีเจตนาอยากจะให้เกิด เราเองก็เช่นกัน...

 

ในกรณีนี้ปลาจะขอไม่โทษว่าเป็นความผิดของใคร หรืออะไร แต่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และความเข้าใจผิดกันล้วนๆ หลายครั้งที่เราพลาดเพราะความเป็นห่วง กังวล เฉกเช่นเดียวกันกับที่แกนนำและเจ้าหน้าที่การ์ดที่ต้องดูแลรับผิดชอบคนจำนวนมากที่มีพฤติกรรมหลากหลาย เค้าเหล่านั้นย่อมต้องห่วง กังวลถึงเหตุร้ายไม่พึงประสงค์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งนี่อาจจะเป็นจุดอ่อนของคนเสื้อแดง

 

** 6 ศพวัดปทุม ตายเพราะพยายามช่วยเหลือกันและกัน

** วีรชนหลายคนตาย เพราะเลือกที่จะปกป้องพี่น้องคนอื่นๆ ไม่ให้ทหารเข้ามาถึงตัว จึงเลือกที่จะเป็นด่านหน้าแทนที่จะหลบหนี

** วีรชนหลายคนตาย ในขณะที่พยายามช่วยเหลือคนอื่นๆ ที่บาดเจ็บและกำลังลำบาก

*** แดงนปช. มีความคิดเห็นไม่ตรงกันกับแดงสยามในบางจุดบางประเด็น เนื่องจากแดงนปช. ห่วงผลกระทบต่อมวลชน ในขณะที่แดงสยามห่วงความรู้สึกของมวลชน แต่ไม่ว่ายังไง ทั้งสองแดง มีประชาชนเป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งนั่นถือเป็นสิ่งดี***

*** หลายครั้ง ใครหลายคนต่างนำเสนอความคิดเห็นของตนเองกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ แต่บทสรุปสุดท้าย ต่างคนต่างก็ห่วงชาวบ้าน ห่วงอนาคตประเทศชาติ และห่วงหาอาทรต่อความยุติธรรมเฉกเช่นเดียวกัน ***

 

ครั้งนี้ก็เช่นกัน พวกคุณหลายคน มีปัญหากัน ขุ่นเคืองและตั้งคำถามใส่กัน เพราะความห่วง ----  ห่วงปลาบ้าง ห่วงภาพลักษณ์บ้าง ห่วงสถานภาพมวลชนโดยรวมบ้าง และห่วงชีวิต – จิตวิญญาณของมวลชนบ้าง

 

ข้อดีของสิ่งๆ นี้ คือ บ่งบอกให้รู้ว่าเรายังคงเป็นมนุษย์ มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกนึกคิดดีอยู่ ไม่เลือดเย็นเข่นฆ่าใครได้ เหมือนอย่างฝ่ายตรงข้ามที่เรานึกรังเกียจในวิธีคิดและปฏิบัติ ปลาเชื่อและพยายามเชื่อเหลือเกินว่าเราจะไม่สามารถบูชายันต์พวกเดียวกันเองได้ไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ตาม

 

นอกจากนี้ ปลาขออนุญาตชี้แจงเหตุผลที่มาที่ไปของการจัดทำเอกสารชุดนี้ให้เพื่อนๆ ได้รับทราบ..

ประการแรก ขออนุญาตแจ้งความจำนงก่อนเลยว่า เจตนาทำมาเพื่อเผยแพร่เนื้อหาให้แก่พี่น้องเราที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงอินเทอร์เน็ตให้ได้รับรู้ รับฟังข่าวสาร เข้าถึงเหตุการณ์ให้ง่ายขึ้น 

ดังนั้น กลุ่มเป้าหมาย หรือ Target จึงไม่ใช่คนอื่นคนไกล เป็นพี่น้องลุงๆ ป้าๆ เรานี่เอง ที่หากจะให้ญาติผู้ใหญ่เราเหล่านั้นไปเปิด Facebook สักอัน เพื่ออัพเดตข่าวสารนั้น คงจะกล้ำกลืนฝืนทนเต็มที

ในแผ่นที่ว่าด้วยเรื่อง 112 นั้น ได้ประมวลข้อกฎหมายมาตราต่างๆเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหลักและแนวทางให้เห็นถึงข้อกำหนดและบทลงโทษตามมาตราต่างๆ รวมไปถึงชี้แจงตามแนวทางถึงข้อดีและข้อเสียของการมีอยู่ คำจำกัดความและความแตกต่าง ของคำว่าวิพากษ์วิจารณ์กับคำว่าหมิ่นประมาทว่าต่างกันยังไง รู้ไว้อาจจะเป็นประโยชน์ในแนวทางและป้องกันการถูกกลั่นแกล้งได้ในระดับหนึ่ง  หลายคนอาจจะคิดว่าปลาหมิ่นเหม่ ยุยงชี้ช่องให้ทำผิดกฎหมาย แต่ในกรณีความคิดเห็นปลาแล้ว คุณจะมาแอ๊บว่าเมืองไทยเมืองพุทธไม่ควรมีหวยบนดินตอนนี้ ก็คงจะไม่ทันแล้ว ในเมื่อคนไทยเล่นหวยใต้ดินกันวันละ 3 เวลา จะเลิกก็แทบจะลงแดง แต่จะดีกว่าหรือไม่ หากแนะแนวทางให้เค้าเล่นพอเป็นกระษัย เป็นพิธีและเล่นยังไงไม่ให้หมดตูด หมดตัว!!! 

 

 ธรรมชาติมนุษย์ มันชอบสิ่งเร้นลับไม่รู้หรือ???

 

ปลายอมรับว่าเนื้อหาไม่มีจุดใดที่จะมองเป็นความผิด เพราะเป็นเรื่องทั่วๆ ไป ขึ้นอยู่กับเจตนาของการตีความ คนอ่าน ถ้าอ่านโดยทั่วๆ ไป ไม่มีเจตนาเคลือบแคลง ก็จะเล็งเห็นว่าเป็นข้อมูลธรรมดาสามัญทั่วไป ไม่แตกต่าง แต่ปลาเชื่อว่าหากใครก็ตามที่อ่านแล้วเกิดความคิดไม่ดีในใจ เจตนาร้าย นั่นก็เป็นเพราะเจตนาในใจของคนคนนั้นเป็นเหตุอยู่เอง จริงมั้ย?? คุณตำรวจ (ที่เขียนเช่นนี้ เพราะเชื่อมั่นแน่ว่า พวกเขาอ่านอยู่ตามหน้าที่ ---- หากคุณตีความออกมาไม่ดี ก็แสดงว่าใจคุณเองก็ไม่ซื่อเช่นกัน มิใช่หรือ)

 

อีกประการในวิธีคิดของปลา คือ มวลชนไม่ใช่ของใคร คนใดคนหนึ่ง เป็น"ประชาชน"เค้าควรมีสิทธิที่จะได้คิด และรับฟังทางเลือก ประกอบการพิจารณาตัดสินใจ ว่าจะเดินในทิศทางการต่อสู้รูปแบบไหน

 

หากเปรียบเทียบเป็นปลา ไม่ว่าจะเจ็บหรือจะตาย ควรจะได้รู้ว่าตัวเองจะเจ็บ หรือตายเพราะอะไร ทำไม

 

ประชาชนควรลุกขึ้นสู้เพื่อตัวของตัวเอง สู้เพิ่อสิทธิ เสรีภาพ พื้นฐานของตนเอง ไม่ใช่เอาชีวิตไปผูกติดกับใคร

สุดท้าย ขออนุญาตยุติความขัดแย้งและการเข้าใจผิดใดๆ หากมีข้อสงสัย ติติง หรือ ตักเตือนแนะนำ สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ทางเพจค่ะ

-------------------ความผิดพลาดทุกอย่าง ทุกประการ ขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว ค่ะ ------

 

 เพื่อลดทอนความขัดแย้ง --- หากช่วยนำไปเผยแพร่ข้อเท็จจริง รบกวนพยายามลงทั้งดุ้น โดยไม่ฆ่าตัดตอนนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^_^

 

---- หากประชาชนสู้ด้วยความรู้สึกนึกคิด และการตัดสินใจของตนเองอย่างแท้จริง จะแปรเปลี่ยนเป็นมวลชนที่ยั่งยืนและเหนียวแน่น แต่หากมาด้วยความไม่รู้ ก็จะสูญเสียเพราะความไม่รู้ หากมาด้วยความไม่แน่ใจ วันหนึ่งปริมาณจะสั่นคลอนไป เฉกเช่นเดียวกันกับมวลชนกลุ่มอื่น ที่มีให้เห็นแล้วเป็นอุทาหรณ์ ----

  

  • ขอขอบคุณทุกๆความช่วยเหลือ จากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ไปเป็นกำลังใจที่โรงพักทุกท่าน มันเป็นความอบอุ่น และน้ำใจอันยิ่งใหญ่ บ่งบอกให้รู้ว่า "พวกคุณไม่ทิ้งเพื่อนแน่นอน"
  • ขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกๆ ท่านที่เป็นธุระจัดหา ประสานงานขอความช่วยเหลือทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง
  • ขอขอบคุณแดงสยาม สนนท. ทนายอานนท์ พี่ๆ นักข่าว นักวิชาการ นักกฎหมาย และนักต่อสู้เรียกร้องสิทธิและความเท่าเทียมพื้นฐานทุกคน สำหรับแรงสนับสนุน ความเข้าใจ กำลังใจ และการให้ความช่วยเหลือ แนะนำด้านกฎหมาย
  •  ขอขอบคุณแดงนปช. รวมไปถึงแดงปัจเจก แดงเสรีชน ทุกคน ที่เป็นห่วงเป็นใยถามไถ่ และร่วมผนึกกำลังกันให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ
  • ขอขอบคุณ ผู้ใหญ่ (พี่ชายคนนั้น) , ดร.ประแสง และคุณณัฐวุฒิ  ที่พยายามติดต่อประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ช่วยชี้แจงข้อเท็จจริง และเหตุการณ์ รวมทั้งอุดช่องโหว่ไม่ให้ปลาถูกฉกฉวยจังหวะในการให้ร้ายเพิ่มเติม
  • ขอขอบคุณคุณตำรวจ ส่วนใหญ่ที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรม เข้าใจ และเปิดใจรับฟังคำชี้แจง

  

 

************************************************************************************

 14 มี.ค. 54    เวลา 9.16 น.

  

ขอออกตัวก่อนว่า --- ทุกคนทำหน้าที่ของตนเองได้ดีที่สุดแล้วค่ะ ในเรื่องนี้ ไม่มีใครผิด หรือถูก เป็นเรื่องของความเข้าใจผิด อารมณ์ จังหวะ และทุกสิ่ง ให้กำลังใจกัน ทำให้เราเข้มแข็งและรู้จุดโหว่ได้ดีกว่านะคะ

  

ผู้ใหญ่ ที่มีหน้าที่ดูแลการ์ด เป็นพี่ชายที่ดีของปลามาโดยตลอด และปลาเชื่อว่าการ์ดเองก็คงอยากทำหน้าที่ปกป้องทุกๆ คน ตามหน้าที่ที่เค้าได้รับมอบหมายมา ... ทันทีที่พี่ชายท่านนี้ทราบเรื่อง ก็พยายามหาทางช่วยเหลือปลาอย่างสุดความสามารถเช่นกัน..

  

หลายๆ เว็บไซต์ หลายๆ กระทู้ ดีเบตกันอย่างน่าเป็นห่วง .... แต่แปลกใจ เหตุใดจึงไม่มีคนคิดถกกันเกี่ยวกับ  เนื้อหาในตัวเอกสาร ให้เป็นเรื่องเป็นราว เพื่อเป็นกรณีศึกษาแก่นักสู้เพื่อประชา คนต่อๆ ไป

  

หากจะโดนวิจารณ์ ยินดีน้อมรับค่ะ

  

*****************************************************************

14 มี.ค. 54 เวลา 9.40 น.

  

นั่งพิจารณาดูแล้ว การที่ปลาตัดสินใจสู้แบบประชาชน ไม่สวมเสื้อสีแดง แต่มีผ้าพันเป็นปลอกแขนแดง และโชว์บัตรนักข่าวต้นสังกัดช้า (อาจจะเพราะไม่อยากให้กระเทือนถึงต้นสังกัด ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย --- ลืมบอกไป เป็นนักข่าวมีสังกัด แต่ไม่มีรายได้ใดๆ จากการทำงาน ใจล้วนๆ)  อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งรึเปล่า ที่การ์ดอาจจะเข้าใจผิดว่าเราเป็น "สิ่งแปลกปลอม" ที่อาจจะทำอันตรายต่อพี่น้องเขา ... ถึงแม้จะรุนแรงไปบ้าง อะไรบ้าง ... แต่รักพี่ รักน้อง พออภัยกันให้ได้บ้าง นะจ๊ะ จุ๊ฟ จุ๊ฟ --- รอบหน้าขอซอฟท์ๆ ได้มะ ... หนูชอบผู้ชายนิ่มนวลลลลล

  

********************************************************************

14 มี.ค. 54 เวลา 10.53 น.

  

ขออนุญาต แก้ไขวันที่จาก 13 มี.ค. 53 เป็น 14 มี.ค. 54 ................  คงต้องเอาเอกสารบางส่วน บางเนื้อหา อธิบายให้รับทราบกัน ลดทอนความกดดัน และให้ความรู้เป็นวิทยาทานไปในตัว

เมื่อ..ปลาปีกไม่กว้างพอจะปกป้องใครได้ทั้งหมด และไม่คิดจะปกปิด แต่เลือกที่จะอธิบายทำความเข้าใจ ขอชี้แจงบนพื้นฐาน ของข้อเท็จจริง แต่การปกปิดจุดเล็กน้อย จะยิ่งรังแต่จะทำให้เรื่องราวบานปลาย ใหญ่โต เกิดวิวาทะ และความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน

  

ประเด็น ไม่ได้อยู่ที่ ใครทำผิด และผิดอย่างไร

แต่ประเด็น อยู่ ที่มีการช่วยกันแก้ไข ปรับปรุงร่วมกันหรือไม่

 

ที่นี่ไม่ใช่เวทีเดอะ สตาร์ หรือ Weakest Link ใครแพ้คัดออก... แต่เป็นชีวิตจริง ตายจริง เจ็บจริง

  

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ธรรมชาติสร้างให้เรียนรู้จากประสบการณ์และฉลาดจากความผิดพลาด และเพราะเราคือ "มนุษย์" จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากเราจะพลาด

 

หลังจากนี้ ผลที่เกิดขึ้น ไม่ว่า Feedback จะเป็นอย่างไร ปลาจะโดนประนามจากสังคม หรือจากคนที่ปลาเคารพหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกระแสนำพา

...

Another Report:


http://rli.in.th/2011/03/13/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C-%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A2/


บันทึกเหตุการณ์ "ปลา" เหยื่อความกลัว ๑๑๒

บันทึกเหตุหารณ์ การ์ดนปช.ล็อคตัวนักข่าวอิสระแจกใบปลิวมาตรา 112 ส่งตำรวจสน.สำราญราษฎร์

โดยป๋าจอมตั๊ป รักไม่ลง คนหลอกลวงณ วันที่ 13 มีนาคม 2011 เวลา 13:35 น.

 

 

เมื่อวานนี้(12 มีนาคม 2554) การชุมนุมใหญ่ของเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น คือมีชายฉกรรจำนวน 6-7คน ในเครื่องแบบ"การ์ดนปช." ล็อคตัวคุณปลา(FB แด่เพื่อน ผู้เดือดร้อน)ซึ่งเป็นนักข่าวอิสระ ทำงานอยู่หลังเวทีนปช.และทำงานช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องเสื้อแดงที่ได้รับความเดือดร้อนมาโดยตลอด ได้ทำเอกสารใบปลิวมาแจกให้ผู้ชุมนุม–>ซึ่งภายหลังอ.สาวตรี สุขศรี(อ.คณะนิติศาสตร์ มธ.)ได้ช่วยยืนยันแล้วว่าเอกสารไม่ขัดต่อตัวบทกฎหมายใดๆทั้งสิ้น<– แต่กลับถูกการ์ดของนปช.เอง ล็อคตัวไปส่งตำรวจสน.สำราญราษฎร์… เป็นที่น่าเศร้าสลดใจของพี่น้องเสื้อแดงที่ได้รับทราบข่าวนี้

 

เหตุการณ์นี้ คงปฎิเสธไม่ได้เลยว่า"ชนวนเหตุ" เริ่มจากการประกาศท่าทีในการแถลงการณ์ของคุณวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ ว่า"สายรายงานว่าจะมีคนมาถือป้ายหรือแจกเอกสารหมิ่นเหม่ในที่ชุมนุม หากเจอตัวให้ช่วยกันล็อคจับส่งตำรวจได้เลย" ซึ่งผมมองว่าเป็นท่าทีที่"ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงในเชิงวิธีการ"ของแกนนำที่แสดงท่าทีแบบนี้…

ไม่ว่าคุณไปรับทราบข่าวจากที่ไหนมา สายข่าวไหนมา การ์ดและแกนนำนปช."ไม่มีสิทธิ์จะไปตัดสินใครว่าผิดหรือไม่ผิด"หากนิยามคำว่า"หมิ่นเหม่"ที่คุณกล่าวมา มันไม่มีความชัดเจนในตัวเอง ไม่มีบรรทัดฐานที่แน่นอนในการตีความ

 

 

 

สิ่งที่อยากถามคือคำว่า"หมิ่นเหม่"ของพวกคุณ หมายถึงอะไร ความหมายเดียวกับ"หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ"หรือไม่ แล้วใครเป็นผู้ตีความคำว่าหมิ่นเหม่นั้น "แกนนำ" "หัวหน้าการ์ด" หรือ"การ์ดระดับปฎิบัติการ" หรือหน้าที่นี้เป็นของตำรวจและนักวิชาการด้านกฎหมายโดยตรง ..ความชัดเจนในอุดมการณ์และขั้นตอนการบริหารจัดการองค์กรคุณมีพร้อมพอหรือยังที่จะไปทำหน้าที่"ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าพนักงานมาเอาผิดมวลชนของตนเอง"

 

อนึ่งผมมีคำถามว่า"ป้ายรณรงค์ยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯมาตรา112″ นั้น "หมิ่นเหม่" ในความหมายของพวกคุณหรือไม่ ถ้าถือว่าหมิ่นเหม่ มันหมิ่นเหม่อย่างไร และมีความผิดในมาตราใด พวกคุณถึงให้การ์ดตามเต๊นท์ต่างๆปลดป้ายเหล่านี้ลง มวลชนจำนวนมากรอคำอธิบายที่ชัดเจนจากพวกคุณอยู่เพราะไม่พอใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้

 

 

 

เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณบ่ายสองโมงกว่า คุณปลาได้เดินแจกเอกสารที่ทำมาแถวบริเวณแยกคอกวัว มีชายฉกรรกลุ่มหนึ่งประมาณ 6-7 คนในชุด"การ์ดนปช."ได้ล็อคตัวคุณปลา ยึดเอกสาร ด่าทอ และใช้อำนาจเข้าตรวจคนกระเป๋า …โดยมิได้ดูเนื้อหาของเอกสารเลยแม้แต่น้อย!!! จากนั้นได้ทำการล็อคตัวคุณปลามาที่หลังเวทีใหญ่ เข้ามาหาหัวหน้าการ์ดชื่อพี่อาคม ซึ่งรู้จักและสนิทกับคุณปลามาก่อนแล้วเพราะคุณปลาทำงานข่าวอยู่หลังเวทีมาโดยตลอด คุณปลาได้นำเอกสารให้คุณอาคมตรวจสอบในเบื้องต้น ไม่พบข้อความหมิ่นเหม่ใดๆ ก็อนุญาติให้เผยแพร่ต่อได้ จากนั้นพี่อาคมก็กลับเข้าไปทำหน้าที่ต่อด้านหลังเวที

 

แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นคือการ์ดนปช.6-7คนนั้นก็ได้ช่วยกันล็อคตัวคุณปลาไปส่งที่เต๊นท์ตำรวจสน.สำราญราษฎร์ที่ตั้งอยู่ด้านหลังร้านอาหารเมธาวลัยศรแดง พร้อมทั้งปึ๊งเอกสารทั้งหมด ในขณะนั้นเหล่าสื่อมวลชนที่เห็นเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวของการ์ดชุดนั้นก็ได้เข้าไปติดตามสถาณการณ์และตามข่าวที่เกิดขึ้น ไปเผยแพร่ต่อสาธารณะว่า การ์ดนปช.ล็อคตัวผู้ชุมนุมแจกใบปลิวหมิ่นเหม่ส่งตำรวจ…

 

 

 

ซึ่งในขณะนั้นป้าๆที่เป็นมวลชนที่รู้จักคุณปลาก็ตามไปช่วยห้ามปรามการ์ดเหล่านั้นและมีแม้มีการ์ดจากหลังเวทีคนหนึ่งเดินตามมายืนยันตัวให้คุณปลาว่ารู้จักและเคยเห็นหน้ามาตลอดรวมทั้งคุณปลารู้จักพี่อาคม แต่ชายฉกรร 6-7 คนนั้นก็ไม่หยุดหย่อน รวมทั้งกล่าวหาว่าคุณปลาแอบอ้างมาป่วน จนคุณปลาต้องถูกควบคุมตัวไปที่สน.สำราญราษฎร์ และก็ทำให้เป็นเรื่องเป็นราวให้สื่อและฝ่ายตรงข้ามรวมทั้งภาครัฐฯนำไปโจมตีให้ผู้ชุมนุมเสื้อแดงเสียหาย …ถามว่างานนี้เสื้อแดงเสียหายเพราะอะไร….?

 

ตัวผมเมื่อวานนี้หลังจากตอนเย็นได้ช่วยพี่ๆเดินแจกเอกสาร"ข้อเสนอ 8 ข้อ เพื่อการปฎิรูปสถาบันกษัตริย์" แต่โชคยังดีที่ไม่ถูก"การ์ดบ้าอำนาจ"กลุ่มนั้นมาพบเจอหรือล็อคตัวไปส่งตำรวจด้วยข้อกล่าวหา"หมิ่นเหม่"บ้าบออะไรก็ตามแต่ แต่ถ้าการชุมนุมครั้งหน้ายังมี"การ์ดนปช.ที่มีพฤติกรรมบ้าอำนาจหรือรับคำสั่งใครก็ตามแต่"มาทำตัวแบบนี้กับมวลชน ผมฟันธงได้เลยว่านปช.อาจจะ "พังไม่เป็นท่า" อย่างไม่ต้องสงสัย

 

 

 

เวลาประมาณหกโมงครึ่ง ตัวผม พี่สหายฟรีแมน และพี่วิน สหายเสื้อแดง นั่งรอขึ้นปราศัยอยู่หลังเวทีแดงสยาม ได้รับแจ้งข่าวเรื่องคุณปลาถูกการ์ดจับจากพี่เก๋ไก๋ กลุ่มพี่น้องผองเพื่อน ซึ่งได้แจ้งมาว่า พี่ณี และลุงธรรม แจ้งข่าวมาเรื่องคุณปลาถูกจับอยู่สน.สำราญราษฎร์ พวกผมก็รีบเดินไปหาพี่ๆนักกิจกรรมที่แจกเอกสาร ข้อเสนอ 8 ข้อของอ.สมศักดิ์ เจียมฯ อยู่หน้าอนุสรณ์สถาน 14ตุลาฯ และได้แจ้งให้ช่วยๆกระจายข่าวกันไป หาคนไปช่วยคุณปลากันก่อน

 

จากนั้นได้โทรติดต่อทนายอานนท์ นำภา ซึ่งกำลังเดินทางมาที่ชุมนุมให้รับทราบเรื่องและเดินทางมาที่สน.และช่วยกระจายข่าวให้เครือข่าย จากนั้นผมสามคนก็เดินทางไปที่สน.สำราญราษฎร์โดยทันที

เมื่อเดินทางไปถึง ภาพที่เห็นคือ คุณปลา นั่งอยู่กับป้าๆ พี่ๆน้องๆ มวลชนเสื้อแดงที่ตามมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง หลังจากเพิ่งออกมาจากห้องสอบสวน และตำรวจกำลังตรวจเอกสารกันอยู่ และพยายามจะให้คุณปลาเซ็นต์รับทราบข้อกล่าวหาลงในบันทึกประจำวัน

 

สิ่งที่ไม่เห็นเลย ณ จุดจุดนั้น คือ..ความช่วยเหลือจากนปช. ต่อมวลชนของเขาเอง ที่ถูก"การ์ดนปช."กระทำ จนเกิดเรื่องเกิดราวขึ้น

ผมโทรศัพท์ต่อสายตรงผ่านสหายนพ นักรพหน้าเวที ซึ่งอยู่กับแกนนำด้านหลังเวที และสหายนพได้ต่อสายดร.ประแสง มงคลศิริ มาให้คุยโดยตรง ก็ได้คุยกับดร.ประแสง และได้คำชี้แจงว่า เป็นการกระทำของการ์ดส่วนนอก ทางการ์ดภายในที่ดูแลเวทีกลางเพิ่งจะทราบเรื่อง และจะประสานให้ความช่วยเหลือต่อไป จากนั้นก็มีพี่ผู้หญิงติดต่อมาว่าพี่เต้น ณัฐวุฒิ เพิ่งทราบเรื่องและติดต่อเพื่อขอเบอร์สน.สำราญราษฎร์ เพื่อจะติดต่อช่วยคลี่คลายปัญหา ผมจึงได้ขอเบอร์ผู้กำกับสน.สำราญราษฎร์ให้ไป หลังจากนั้นก็ไม่ทราบได้ว่าเขาไปคุยอะไรกันต่อหรือไม่ แต่ก็ยังไม่มีใครจากเวทีนปช.มาช่วยเหลือคุณปลา

 

ในเวลาต่อมาหลังจากมาถึงสน.ได้สักพัก ก็มี อ.สาวตรี สุขศรี(อาจารย์นิติศาสตร์ มธ.) ทนายประเวศ ประภานุกูล(ทนายความคุณดา ตอร์ปิโด) ทนายอานนท์ นำภา(ทนายความสำนักกฎหมายราษฎรประสงค์) อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล อ.สุดา รังกุพันธ์ พี่หนิง จิตรา คชเดช พี่โรส(ทนาย112) พี่สาวผมจากองค์กรณ์สิทธิมนุษยชนสากล และเหล่าActivistด้านสิทธิมนุษยชนอีกหลายท่าน ตามเข้ามาสมทบเพื่อร่วมช่วยเหลือคุณปลากันอย่างเต็มที่ ทำให้น่าอุ่นใจได้ระดับหนึ่ง

 

อาจารย์สาวตรีและทนายประเวศ ได้ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตามกฎหมายแล้วเจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมตัวคุณปลาไว้ถึง 6 ชั่วโมงได้โดยไม่แจ้งข้อกล่าวหา หากฝ่าฝืนไม่ยอมปล่อยตัวคุณปลา ผู้เสียหายสามารถฟ้องกลับเจ้าพนักงานในมาตรา 157 ได้ และตำรวจไม่มีอำนาจทำสำนวนหรือแจ้งข้อกล่าวหาใดๆกับเอกสารนี้ได้เลย เพราะไม่มีผู้แสดงเจตจำนงฟ้องในมาตราใดๆกับคุณปลา แต่ตำรวจนายหนึ่งยืนยันว่าติดใจเรื่องตรา"ชฎา"บนหัวเอกสาร และต้องเซ็นต์ลงในบันทึกประจำวันสืบสวนเอกสารให้ได้ ถึงจะยอมปล่อยตัว

 

 

 

จากปากคำของคุณปลา ได้ความว่า ตำรวจที่อยู่ที่นั่นส่วนใหญ่ไม่มีคนไหนติดใจเอาความหรือจะทำให้เป็นคดีแต่อย่างใด เพราะเข้าใจว่าเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่ทว่ามีคนหนึ่งถ้าจำไม่ผิดอยู่ในตำแหน่ง"สารวัตร" พยายามจะให้เรื่องนี้เป็นคดีให้ได้ และพยายามจะให้คุณปลาเซ็นต์ชื่อในเอกสารโดยอ้างว่า"เพื่อรายงานเจ้านาย" ซ้ำร้ายยังพยายามจะไปตรวจคนบ้านพักของคุณปลาโดยอ้างคำว่า"นายสั่งมา" สรุปแล้วสืบไปสืบมา เรื่องนี้เป็นคำสั่งตรงจาก อำนวย นิ่มมะโน ให้"เป็นเรื่อง" ให้เป็นคดี" โดยอาศัยช่องว่างที่"การ์ดนปช." มีอำนาจล็อคตัวมวลชนได้ตามที่คุณวรวุฒิมอบหมายไว้  ซึ่งหลังจากพาคุณปลาเข้าไปตามเรื่องดังกล่าวที่หลังเวทีก็พบว่า 3 ใน 7 ของการ์ดที่ล็อคตัวนั้น ไม่ใช่การ์ดเวที แต่เป็นตำรวจแทรกซึมมา และการ์ดอีก 3-4 คนก็เฮโลตามไป หรืออยากสร้างผลงานให้นายก็ไม่ทราบ จึงมาจับตัวคุณปลาส่งตำรวจ

 

จากการประเมินโดยส่วนตัว คิดว่าเรื่องนี้"มีใบสั่ง"เพราะพี่อาคมก็ได้รายงานว่าก่อนหน้านี้มีสายข่าวมารายงาน ปล่อยข่าวว่าจะมีคนมาแจกใบปลิวหมิ่นเหม่เพื่อทำลายการชุมนุม ซึ่งข่าวจากไหนมวลชนคงไม่ทราบได้ แต่มันได้กลายมาเป้นนโยบายล็อคตัวมวลชน จากปากแกนนำไปซะแล้ว ซึ่งระบบการจัดการอำนาจของ"การ์ดนปช."ถือว่า"ยังไม่พร้อม" ที่จะทำหน้าที่ตรงนี้แม้แต่น้อย

 

การล็อคตัวมวลชนของการ์ดนปช.ด้วยข้อหาหมิ่นเหม่ไม่สามารถทำได้ หากการตีความคำว่า"หมิ่นเหม่"ของนปช.ยังคลุมเครือ ไม่ชัดเจนใดๆเลย จับมวลชนส่งตำรวจ แม้แต่ตำรวจก็ยังไม่รู้จะเอาผิดอะไร แต่การ์ดและแกนนำนปช.เอาอะไรมาตัดสินว่าใครผิดใครหมิ่นเหม่เล่า

 

การกระทำของ"การ์ดนปช.นอกแถว"ครั้งนี้ มีแต่เกิดผลเสีย ทั้งการทำให้เกิดภาพข่าวที่เป็นลบกับผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ การเสียความรู้สึกของมวลชนหัวก้าวหน้าที่ถูกใครบางคนลุแก่อำนาจมาทำลายล้างกันเอง…

 

 

 

คำถามเดียวที่เกิดขึ้นในใจตอนนี้คือ แกนนำและการ์ดนปช. จะออกนโยบายให้การ์ดล็อคตัวมวลชนส่งตำรวจมั่วซั่วแบบนี้ เพื่อไปเป็นหูเป็นตา เป็นแขนเป็นขาให้ฝ่ายอำมาตย์ที่จ้องเล่นงานมวลชนหัวก้าวหน้า เพื่ออะไร ? หน้าที่ของคุณคือรับใช้ใคร มวลชน? หรือฝ่ายความมั่นคง? ถามตัวเองดีแล้วหรือยัง ถึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับมวลชนของตนเองได้

 

การเอาพี่น้องเสื้อแดงส่งตำรวจไม่ว่าเขาจะหมิ่นเหม่จริง หรือไม่จริง ผมถือว่าเป้นการ"ฆ่าพี่น้องกันโดยทางอ้อม" เหมือนคุณทำตัวเป็นเจ้าพนักงานฝ่ายอำมาตย์มาจ้องเอากม. 112 มาเล่นงานมวลชน หรือว่ามีคนของฝ่ายความมั่นคง หรือของอำนวย นิ่มมะโน มาแฝงตัวใน"การ์ดนปช."เหล่านั้นหรือไม่ ? มันเป็นเรื่องเลวร้ายมากสำหรับคนทำงาน สำหรับมวลชนหัวก้าวหน้า ผมไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกอย่างเด็ดขาดไม่ว่ากับใครก็ตามที่เป็นมวลชนคนเสื้อแดงที่มาร่วมในการชุมนุมครั้งต่อๆไป

 

หลังจากเหตุการณ์นี้คุณปลาได้เข้าไปพูดคุยโดยตรงกับพี่เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และได้รับกำลังใจกลับมาว่า"คุณปลาทำดีแล้ว ขอให้ทำต่อไป สู้ต่อไป" ที่เหลือหลังจากนี้คงเป็นการรวบรวมหลักฐาน เอาผิดการ์ดนอกแถว และเตรียมฟ้องกลับสื่อมวลชนที่เสนอข่าวบิดเบือนโดยไม่ได้รายงานข้อเท็จจริงทำให้คุณปลา และผู้ชุมนุมเสื้อแดงเสียหาย

 

กรณีนี้ผมคงไม่โทษใครเป็นรายบุคคล แต่ผมอยากจะวิพากษ์ว่าระบบที่เป็นอยู่ของการควบคุมโครงสร้างการจัดการในระบบการ์ดนปช.ในปัจจุบัน หรือแนวคิด"แดงจับแดง" ที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นนโยบายแบบนี้มันยังใช้ไม่ได้

 

หากการชุมนุมครั้งหน้าผมจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่เป็นผม หรือไม่เป็นพี่น้องที่ผมรู้จัก จะถูก"การ์ดนปช."ล็อคตัวจับส่งตำรวจแบบครั้งนี้อีกเล่า ?

 

 

 

เสียงดังแว่วแผ่วมากับสายลม…

หรือมวลชนต้องทิ้งเรื่อง 112 เพื่อการปรองดอง และเลือกตั้ง ??

No comments:

Post a Comment